เอบีเอส หรือ Anti-lock Breaking System ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการล้อล็อกตายในขณะที่มีการเบรกอย่างรุนแรง จนไม่สามารถบังคับทิศทางของรถได้ ซึ่งนั่นอาจจะนำไปสู่การพุ่งชนรถหรือสิ่งกีดขวางบนถนน เพราะผู้ขับไม่สามารถหมุนพวงมาลัยเพื่อหักหลบได้
หลายคนที่เคยขับรถที่ไม่ได้ติดตั้งเอบีเอสเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจะทราบดีว่า เมื่อมีการเบรกอย่างกะทันหัน สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ผ้าเบรกจะจับกับดิสก์เบรกอย่างรุนแรงเพื่อให้เกิดการหยุดหมุนของล้อ จนนำไปสู่การล็อกตายและไม่สามารถบังคับควบคุมทิศทางได้ ทำให้รถยังเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของล้อในตอนนั้นเพราะแรงเฉื่อยที่เกิดขึ้น
ทางแก้ไขสำหรับปัญหานี้ในกรณีของรถที่ไม่มีเอบีเอส คือ การย้ำเบรกหลายๆ ครั้งอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วแทนที่จะกดแป้นเบรกจนจมเท้าและค้างไว้อย่างนั้น ทำให้ผ้าเบรกเกิดอาการที่เรียกว่า ‘จับ-ปล่อย’ กับดิสก์เพื่อให้ล้อสามารถหมุนต่อไปได้และป้องกันล้อล็อกตาย ส่งผลให้ผู้ขับสามารถหมุนพวงมาลัยหักหลบสิ่งกีดขวางได้
เอบีเอสถูกพัฒนาขึ้นมาซึ่งในช่วงแรกถูกใช้ในเครื่องบินโดยเฉพาะในจังหวะที่เครื่องกำลังร่อนลง ก่อนที่จะมีการประยุกต์เพื่อนำมาใช้กับรถยนต์ในการทำหน้าที่ตามแนวคิด ‘ย้ำเบรก’ แต่ใช้ระบบกลไกทำหน้าที่แทนที่จะเป็นเท้าขวาของคนขับซึ่งอาจจะไม่มีความรวดเร็วและแม่นยำมากพอในการทำหน้าที่นี้
การทำงานของระบบจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเบรกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลัน ซึ่งหมายถึงผู้ขับมีการกดเบรกอย่างรุนแรงและกดค้างไว้อย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีเซ็นเซอร์สั่งจ่ายน้ำมันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์สั่งจ่ายน้ำมันเบรกไปยังฝักเบรก เพื่อดันลูกสูบเบรกเป็นจังหวะภายในเสี้ยววินาทีในการทำงานลักษณะ ‘จับ-ปล่อย’ เป็นจังหวะหลายสิบครั้งต่อวินาที เพื่อไม่ให้ล้อล็อก และผู้ขับสามารถหักพวงมาลัยหลบสิ่งที่ขวางอยู่ทางด้านหน้า
อย่างไรก็ตาม สภาพพื้นผิวถนน โดยเฉพาะพื้นผิวที่ลื่นหรืออยู่บนกรวดและทราย ถือเป็นปัจจัยหลักที่อาจทำให้เอบีเอสไม่สามารถทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะว่าระบบไม่สามารถกระจายการหมุนของล้อ แต่ละล้อ ให้เท่ากันได้ในสภาพถนนในลักษณะนี้ ซึ่งผู้ขับควรใช้ความระมัดระวังเมื่อขับบนเส้นทางที่เปียกลื่น
ในขณะใช้งาน เพื่อให้มีเอบีเอสทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับควรกดเบรกอย่างรวดเร็วและค้างไว้อย่างนั้น ห้ามปล่อยเด็ดขาด ซึ่งการทำงานของเอบีเอสจะฟ้องออกมาทันทีผ่านทางแป้นเบรกซึ่งจะมีการสั้นสะท้านจนรู้สึกได้ พร้อมกันนั้น ผู้ขับควรหักพวงมาลัยเพื่อหลักหลบสิ่งที่ขวางทางอยู่ โดยประสิทธิภาพการเลี้ยวจะลดลงไปบ้าง 15-25% เนื่องจากมีการลื่นไถลของหน้ายางระหว่างการเบรก
และถ้ามีพื้นที่ว่างหรือโล่ง ทดลองฝึกใช้เอบีเอสได้ โดยขับด้วยความเร็วสัก 30-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วกระแทกแป้นเบรกอย่างรุนแรง จากนั้นจึงหักพวงมาลัยหลบซ้ายหรือขวา โดยสมมุติว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ทางด้านหน้า เพื่อให้ทราบถึงการใช้งานที่ถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ