อย่างที่เรารู้กันดีอยู่ว่าเข็มขัดนิรภัยคือตัวช่วยสำคัญต่อผู้ใช้รถเวลาเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ละเลยความปลอดภัยเหล่านี้ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เกือบ 100% เป็นผู้โดยสารด้านหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และรู้หรือไม่ว่าตอนนี้มีกฎหมายบังคับใช้ให้ผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ถ้าตรวจพบเจอโดนจับปรับ
ตามมาตรา 44 โดยระบุว่า มีการบังคับใช้กฎหมาย 2 ส่วน คือ กฎหมายรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สำหรับรถยนต์นั่งบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2531 – 31 ม.ค. 2555 และรถแท็กซี่ ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ต้องมีและใช้คาดเข็มขัดนิรภัย / ส่วนรถแท็กซี่ ที่จดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2554 กำหนดให้มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
ส่วนรถตู้ ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย ทุกที่นั่ง ส่วนของรถกระบะ (ปิ๊กอัพ) ในส่วนของผู้ขับขี่และคนนั่งด้านหน้า ต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย ยกเว้น รถสองแถว รถกระบะมีแคป และรถสามล้อเครื่อง ที่บังคับเฉพาะคนขับและผู้โดยสาร เนื่องจาก ไม่เหมาะแก่การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มเติม
สรุปมาตรา 44 เข้มงวดกฎหมายจราจร แบ่งตามประเภทได้ดังนี้
-รถยนต์ : ห้ามนั่งเกิน 5 คน รัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
-รถแท็กซี่ : ห้ามนั่งเกิน 5 คน รัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
-รถกระบะ (มีแคป) : ห้ามนั่งแคป, ห้ามนั่งบนกระบะท้าย, รัดเข็มขัดทุกที่นั่ง (2 คนหน้า)
-รถกระบะ 4 ประตู : ห้ามนั่งเกิน 5 คน, ห้ามนั่งบนกระบะท้าย, รัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
-รถตู้โดยสารสาธารณะ : ห้ามนั่งเกิน 13 คน รัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
สำหรับอัตราโทษค่าปรับ ข้อหาไม่รัดเข็มขัดนิรภัยตามกฎหมาย ทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ให้ข้อมูลว่า ทุกคนทั้งในรถยนต์ส่วนตัว รถกระบะ รถแท็กซี่ และรถโดยสารสาธารณะ จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับคนละ 500 บาท ในส่วนของรถโดยสารขนาดใหญ่นั้น หากผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 5,000 บาท
ประโยชน์ของการคาดเข็มขัดนิรภัย
-ช่วยไม่ให้คนกระเด็นออกไปนอกตัวรถจากแรงกระแทกหรือแรงเหวี่ยง
-ช่วยกระจายแรงกระแทกที่เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น ช่วยป้องกันศีรษะหรือร่างกายส่วนบนเหวี่ยงไปกระแทกกับพวงมาลัยหรือบริเวณแผงหน้ารถ เป็นต้น
-ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวช้าลง เพื่อลดอาการบาดเจ็บ เพราะการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันจากแรงกระแทกอาจทำให้บาดเจ็บรุนแรงได้
-ช่วยป้องกันสมองและกระดูกสันหลังจากอันตราย เพราะหากศีรษะได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง อาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อันตรายจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยกรณีเกิดอุบัติเหตุ
-แรงกระแทกจากการชนที่เกิดจากรถที่วิ่งเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเท่ากับรถที่ตกจากที่สูง 14 เมตร หรือความสูงประมาณตึก 5 ชั้น
-คนที่อยู่ในรถ ถ้าไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับรถ เมื่อรถชนและหยุดกะทันหัน ศีรษะ ใบหน้า และลำตัวของคนในรถจะถูกเหวี่ยงไปกระแทกกับพวงมาลัย กระจกหน้ารถ หรือหลุดกระเด็นออกนอกตัวรถ
-อวัยวะในร่างกาย เช่น ตับ ไต ลำไส้ สมอง หรือไขสันหลังจะเคลื่อนไหวเท่ากับความเร็วของรถ เมื่อรถชนหรือหยุด อวัยวะภายในจะกระแทกกันเอง ทำให้ตับ ไต ลำไส้ หรือสมองฉีกขาดได้