Casio เปิดตัว G-SHOCK MRG-B5000 ออกมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำเอาความแกร่งของรุ่นเรือธงซีรี่ส์ MR-G รวมเข้ากับความคลาสสิกดั้งเดิมในรูปทรงสี่เหลี่ยมของ G-SHOCK DE-5000C ที่ออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1983 โดยที่มี 2 สีให้เลือก
G-SHOCK MRG-B5000 มาพร้อมกับความพิถีพิถันบนตัวเรือน โดยมีการขัดผิวเป็นพิเศษเพื่อให้มีผิวที่สวยงามแม้กับส่วนที่เล็กที่สุดในขอบ Bezel ของนาฬิกาที่มีโครงสร้าง Multi-Guard Structure ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ถึง 25 ชิ้น โดยที่โครงสร้างใหม่ยังประกอบด้วยหลายชิ้นหลายส่วนดูดซับแรงกในขอบนาฬิกาเพื่อให้ความมั่นใจในการทนต่อแรงกระแทก
นอกจากนี้ทาง Casio ยังระบุว่า MRG-B5000 ใช้วัสดุที่ทำในญี่ปุ่นอย่าง Cobarion ซึ่งมีความแข็งกว่าไทเทเนียมบริสุทธิถึง 4 เท่าในขณะที่ให้ความแวววาวเหมือกับแพลตตินัมกับส่วนบนสุดของของ Bezel ในขณะที่สายนาฬิกาเป็นไทเทเนียมอัลลอย DAT55G ที่แข็งกว่าไทเทเนียมบริสุทธิ 4 เท่า พร้อมกับมีคุณสมบัติทนต่อรอยขูดขีดเพื่อให้ความมั่นใจว่านาฬิกาจะความสวยงามยาวนาน
ส่วนฟังก์ชันของนาฬิกาประกอบด้วยระบบตั้งเวลาอัตโนมัติโดยใช้สัญญาวิทยุ สามารถแสดงเวลาโลก 5 โซนเวลาจาก 39 เมือง สามารถจับเวลาได้ละเอียด 1/100 วินาที นับเวลาถอยหลังได้ ตั้งเวลาปลุกได้ 5 เวลาต่อวัน รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วยฟังก์ชัน Smartphone Link มีระบบชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ และมีไฟ LED ความสว่างสูง
MRG-B5000 มี 2 สีให้เลือกระหว่าง MRG-B5000B สีดำ กับ MRG-B5000D สีเงิน
