ในที่สุด Honda CR-V ใหม่ซึ่งเป็นเจนเนเรชันที่ 6 ก็ถูกเผยโฉมออกมาแล้วที่อเมริกา โดยรถเอสยูวีรุ่นใหม่มาพร้อมกับสไตล์ภายนอกที่แกร่งขึ้น ตัวรถมีความยาวและความกว้างมากขึ้น ในขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความทันสมัยและปราณีต รวมทั้งยังมีขุมกำลังไฮบริดใหม่เป็นทางเลือก
Honda CR-V ใหม่ถูกออกแบบภายนอกให้มีความแกร่งมากขึ้นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ตั้งตรง ฝากระโปรงหน้าที่ยาว รวมทั้งมีไฟหน้า LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีการปรับส่วนต่างๆ ของรถจากรุ่นก่อนหน้าอย่างการเลื่อนเสาหน้าของรถเป็นด้านหลังมากขึ้น กว้างมากขึ้น และมีความสูงน้อยลง พร้อมกับมีการเปลี่ยนตำแหน่งของกระจกมองข้างใหม่
นอกจากแกร่งขึ้นแล้วรถเอสยูวีรุ่นใหม่ยังมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยความยาว 184,8 นิ้ว กว้าง 73.4 นิ้ว และสูง 66.2 ที่ด้านหน้าส่วนด้านหลังมีความสูง 66.6 นิ้ว ในขณะที่ระยะฐานล้อมีความยาว 106.3 นิ้ว ซึ่งทำให้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าตัวรถมีความยาวเพิ่มขึ้น 2.7 นิ้ว ระยะฐานล้อยาวขึ้น 1.6 นิ้ว และมีความกว้างขึ้น 0.4 นิ้ว รวมไปถึงยังมีพื้นที่เก็บของด้านหลัง 36.3 ลูกบาศ-ฟุตเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 12 ลูกบาศ-ฟุต
ส่วนของขุมกำลังที่ขายในอเมริกามี 2 ทางเลือกคือเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 242 นิวตันเมตรใช้เกียร์ซีวีทีส่งกำลัง และระบบไฮบริดใหม่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับ 2 มอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังรวม 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร
ในห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับจอแสดงข้อมูลดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และจอระบบ Infotainment ขนาด 7 นิ้วหรือ 9 นิ้วขึ้นอยู่กับเกรดของรถ แต่ทั้งหมดรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้ CR-V ใหม่เกรดสูงยังมีแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมทั้งระบบเสียงพรีเมียมจาก Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว
ด้านชุดระบบความปลอดภัยและระบบช่วยผู้ขับ HondaSensing มีการใช้กล้องและเรดาร์ใหม่ที่มีมุมกว้างขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการชนด้วยการตรวจจับวัตถุต่างๆ ทั้งพาหนะคันอื่น คนเดินถนน คนขี่จักรยาน มอเตอร์ไซค์ เส้นสีขาว ขอบถนน รวมทั้งสัญญาณจราจร พร้อมมีการแสดงข้อมูลในมุมบอดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีการทำงานตรวจจับและเตือนผู้ขับเมื่อขาดสมาธิ
ทาง Honda จะเริ่มขาย CR-Vใหม่รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบที่อเมริกาตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนนี้ ส่วนรุ่นไฮบริดจะเริ่มขายในช่วงปลายปี
