Mercedes-Benz GLS ปรับอุปกรณ์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน

หลังจาก Mercedes-Benz ปรับโฉมให้กับรถเอสยูวีขนาดกลาง GLE ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ถึงเวลาปรับโฉมให้กับรถเอสยูวีรุ่นเรือธง GLS ซึ่งมีการปรับภายนอกของรถ เพิ่ม 2 สีใหม่ให้เลือก และปรับในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐาน

 

ความเปลี่ยนแปลงภายนอกของ Mercedes-Benz GLS รุ่นปรับโฉมที่ด้านหน้าอยู่ที่กระจังหน้าใหม่มี 4 แถบแนวนอนชุบ Silver Shadow คุณภาพสูง รวมทั้งมีการเปลี่ยนกันชนใหม่ที่มีช่องดักอากาศแตกต่างไปจากเดิพร้อมมีกรอบรอบช่องดักอากาศสีดำเงา นอกจากนี้ยังมีแผงกันกระแทกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมากับรถ

New Mercedes-Benz GLS

ส่วนด้านหลังถูกระบุว่ามีการออกแบบภายในของไฟท้ายใหม่ที่สะดุดตามากขึ้นด้วย 3 บล็อกแนวนอน นอกจากนี้ยังมีสีฟ้าเมทัลลิก Sodalite Blue และสีเทา Manufaktur Alpine Grey เป็น 2 สีใหม่ให้เลือกสำหรับภายนอกรถ รวมทั้งเพิ่มล้อ Light-alloy Multi-spoke ขนาด 20 นิ้วสีเทา Himalayas Grey เข้ามาให้เลือก

Mercedes-Benz GLS

ส่วนห้องโดยสารของรถซึ่งมีเบาะ 7 ที่นั่งมีหนังสีเบจ Catalana Beige และสีน้ำตาล Bahia Brown เป็นหนังสองสีใหม่ พร้อมมีการใช้ไม้สีน้ำตาลเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการแต่ง โดยที่มีแผง Piano Lacquer สีดำเงาจาก Manufaktur เป็นออฟชันให้เลือก รวมทั้งในส่วนของแผงช่องระบบปรับอากาศตรงกลางและด้านข้างยังถูกชุบด้วย Silver Shadow เหมือนกับ Mercedes-Maybach GLS

นอกจากนี้รูปแบบการแสดงหน้าจอระบบ MBUX ยังได้รับการปรับใหม่ มีรูปแบบหน้าจอให้เลือกระหว่าง Classic, Sporty และ Discreet รวมทั้งยังให้ความมั่นใจเมื่อเดินทางบนเส้นทางทุรกันดารมากขึ้นด้วยโหมด Off-Road ของ MBUX ที่มีการแสดงข้อมูลอย่างความลาดชัน การเอียงของรถ เข็มทิศ และมุมของพวงมาลัย ส่วน Parking Package พร้อมกล้อง 360 องศาซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานก็มีฟังก์ชัน Transparent Bonnet สำหรับแสดงภาพเสมือนของพื้นใต้ฝากระโปรงหน้ารถให้ดู

รถเอสยูวีหรูยังมาพร้อมกับการทำงาน Trailer Manoeuvring Assist การอัพเดตเมนู Trailer ใหม่ที่จอตรงกลาง และการทำงาน Trailer Route Planner เพื่อหาเส้นทางที่เหมาสมสำหรับการท่องเที่ยวพร้อมลากจูงสิ่งต่างๆ ไปด้วย

GLS ใหม่มี 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกระหว่าง GLS 450 4Matic หรือ GLS 580 4Matic และ 2 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลคือ GLS 350d 4Matic หรือ GLS 450d 4Matic รวมทั้งรุ่นแรง Mercedes-AMG 63 4Matic ที่มาพร้อมกำลัง 612 แรงม้า สำหรับการส่งมอบรถจะเริ่มที่สหรัฐอเมริกาช่วงกลางเดือนกันยายน 2023 นี้ จากนั้นจะมีที่ยุโรปในช่วงปลายเดือนตุลาคม

Tagged:

admin24

admin24

RELATED ARTICLES