ผลการนับคะแนนเพื่อตัดสินรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ของประเทศไทย รถยนต์ Honda CR-V e:HEV และ MG 4 Electric ต่างได้คะแนนสูงสุด ทำให้ได้ครองรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 และ THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ณ ศูนย์ประชุม เดอะฮอลล์ ถ.วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
ในปี 2566 สรยท. ดำเนินการคัดเลือกรถยนต์ และรถ EV โฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ เปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึง 30 กันยายน 2566 โดยมีกติกาการตัดสิน เป็นมาตรฐานเดียวกับการคัดเลือก Car of The Year ยุโรป และรถยนต์ยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น
สำหรับรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2023 เป็นปีแรกของการมอบรางวัล และเนื่องจากรถ EV ที่ทำตลาดในไทยปัจจุบัน เป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศแบบ CBU คณะกรรมการตัดสินจึงนำเงื่อนไขให้เลือกเฉพาะ รถจากผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้ากับรัฐบาล หรือได้ขอส่งเสริมการลงทุนเพื่อตั้งโรงงานผลิต ประกอบรถในประเทศไทย
นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) ในฐานะประธานจัดงานมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 กล่าวว่า สรยท.ได้ดำเนินการจัดงานมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 เป็นการตัดสินให้รถยนต์รุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์เพียง 1 รุ่น ได้รางวัลอันทรงเกียรตินี้ รอบแรกเป็นการคัดเลือกรถที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ให้สมาชิกสมาคมฯ เป็นผู้ลงคะแนนเลือกไว้ครึ่งหนึ่งผ่านการโหวตนำเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย โดยในรอบสุดท้ายนี้ก่อนที่จะมีการลงคะแนน ได้จัดให้มีการทดสอบรถยนต์ภาคสนามกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีประสบการณ์ในการทำข่าวสายยานยนต์ และทดสอบรถยนต์ อันเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
ที่สุดรถยนต์ HONDA CR-V e:HEV และ MG 4 Electric เป็นรถยนต์ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบสุดท้ายจึงได้รับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 และ THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ไปตามลำดับ
โดยกรรมการผู้ลงคะแนนแต่ละท่าน ใช้หลักเกณฑ์ในการให้คะแนนตามหัวข้อต่างๆ ที่สมาคมฯ กำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตามกฎกติกาสากล เช่น รูปทรงากรออกแบบ ประโยชน์ใช้สอย ระบบความปลอดภัย สมรรถนะเครื่องยนต์ เทคโนโลยี และระบบช่วงล่าง นอกจากนั้นต้องพิจารณาถึงพัฒนาการของรถยนต์รุ่นนั้น ความมั่นคงในเรื่องแบรนด์ และบริการหลังการขายประกอบการพิจารณา
สำหรับสถานที่ทดสอบภาคสนามในปีนี้ สรยท.ได้รับความอนุเคราะห์จากสถาบันยานยนต์ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ใช้พื้นที่ของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC ตั้งอยู่ที่ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 11 คัน เนื่องจากศูนย์แห่งนี้ในอนาคตจะมีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยและภูมิภาคใช้ในการทดสอบยานยนต์รวมถึงอุปกรณ์ และกำหนดมาตรฐานสำหรับยานยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ ของตัวรถ ที่เขามาทำตลาดในประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
รถเข้ารอบสุดท้ายที่คณะกรรมการได้ทำการทดสอบทั้งหมด 11 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ 6 คัน คือ BMW X1, GWM TANK 300, HONDA CR-V e:HEV, Mercedes-Benz GLC 350e, MITSUBISHI TRITON, TOYOTA INNOVA ZENIX และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 5 คัน คือ BYD Dolphin, BYD Seal,
MG 4 Electric, MG Maxus 9, TOYOTA bZ4X
“ปีนี้ถือเป็นความริเริ่มสำหรับรถ EV เนื่องจากเป็นทิศทางการเปลี่ยนผ่านยานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาบภายในไปสู่รถพลังงานไฟฟ้า และปัจจุบันไทยมีรถ EV เข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้นและต่อเนื่อง การสร้างมาตรฐานให้รถในกลุ่มนี้ เป็นหน้าที่หนึ่งขององค์กรสื่อยานยนต์ด้วยเช่นกัน และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่มีการให้รางวัลนี้ด้วย” นายวชิระ กล่าว
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 กล่าวว่า “รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เป็นรางวัลอันทรงเกียรติและเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศไทยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ยานยนต์ที่มีสมรรถนะด้าน “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” ตรงความต้องการของผู้บริโภคในประเทศมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ยังจะเป็นส่วนสนับสนุนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตไปข้างหน้า ตามทิศทางเทคโนโลยียานยนต์ของโลกที่มุ่งพัฒนาไปสู่การขับขี่สู่ความยั่งยืน (Sustainable Mobility) และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ที่วางไว้อีกด้วย
กระทรวงอุตสากหรรมยินดีที่ได้องค์กรสื่ออย่างสรยท.เป็นพันธมิตรร่วมในการสร้าง และส่งเสริมภาคการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย และแม้ในปัจจุบันรัฐบาลจะมีโครงการสนับสนุนการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าต่อเนื่อง แต่กระทรวงฯ ยืนยันว่าการผลิตรถยนต์สันดาบภายในยังมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยเช่นกัน
“ผมขอชื่นชมองค์กรสื่อ โดยเฉพาะสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ที่สร้างสรรค์รางวัลอันทรงคุณค่านี้ และเป็นส่วนสนับสนุนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและมีคุณภาพ”
นอกจากนี้ สรยท.ยังได้มอบรางวัล Thailand Car & Motorcycle Marketing Award 2023 ให้กับบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงธุรกิจ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในทั้งยอดขาย การผลิต และกลยุทธ์การตลาด ในปี 2022-2023 ทั้ง 23 บริษัท ดังนี้
นอกจากนี้ สรยท.ยังได้มอบรางวัล Thailand Car & Motorcycle Marketing Award 2023 ให้กับบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงธุรกิจ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในทั้งยอดขาย การผลิต และกลยุทธ์การตลาด ในปี 2022-2023 ทั้ง 23 บริษัท ดังนี้
นอกจากนี้ สรยท.ยังได้มอบรางวัล Thailand Car & Motorcycle Marketing Award 2023 ให้กับบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงธุรกิจ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในทั้งยอดขาย การผลิต และกลยุทธ์การตลาด ในปี 2022-2023 ทั้ง 23 บริษัท ดังนี้
- รางวัล ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมสูงสุด ประจำปี 2565 ได้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
- รางวัล รางวัลผู้จำหน่ายรถยนต์กลุ่ม xEV สูงสุดประจำปี 2565 ได้แก่ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล ผู้จำหน่ายรถกระบะ 1 ตัน สูงสุด ประจำปี 2565 ได้แก่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
- รางวัล รถยนต์คันแรกที่ออกแบบให้แตกต่างและเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ปี 2566 ได้แก่ มาสด้า 2 ของ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล ขวัญใจ SME ได้แก่ SUZUKI CARRY จาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล ผู้ส่งออกรถกระบะยอดเยี่ยม ประจำปี 2565 ได้แก่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล ผู้จำหน่ายรถยนต์ PPV ที่คุ้มค่าตัวสูงสุด ได้แก่รถยนต์ NISSAN TERRA จาก บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล ยอดขายรถยนต์เติบโตสูงสุดในปี 2565 ได้แก่ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล แชมป์ยอดจำหน่ายรถยนต์ยุโรป ประจำปี 2565 ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
- รางวัล รถยนต์ที่มีคุณค่าน่าสะสมสูงสุด (Rare Item) ได้แก่ รถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น AMG G 63 จาก บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด
- รางวัล ผู้นำเข้ารถยนต์ยุโรปพรีเมียมที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ รถยนต์ AUDI จาก บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด
- รางวัล ผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปหัวใจสีเขียว ได้แก่ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล รถไฟฟ้า SPORT SEDAN ที่คุ้มค่าที่สุด เป็นของรถยนต์ BYD Seal จากบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด
- รางวัล ผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าสูงสุด ประจำปี 2565 เป็นของ ORA GOOD CAT จาก บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล รถยนต์ MPV ไฟฟ้า ที่เหมาะกับครอบครัวที่สุด ได้แก่ MAXUS 9 จาก บริษัท เอ็มจีเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล ผู้นำยานยนต์พลังงานสะอาดจากแดนมังกร ได้แก่ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด
- รางวัล บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่มียอดกรมธรรม์สูงสุด ประจำปี 2566 ได้แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- รางวัล ผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2565 ได้แก่ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด
- รางวัล ผู้บุกเบิกระบบนิเวศรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด
- รางวัล ผู้นำนวัตกรรมออโตเมติกของประเทศไทย ได้แก่ รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า จาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
- รางวัล รถจักรยานยนต์ บิ๊กสกูตเตอร์ทัวริ่ง พิกัด 400 ซี.ซี. ยอดนิยม ได้แก่ รถจักรยานยนต์ Suzuki Burgman 400 จาก บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
- รางวัล รถจักรยานยนต์ ซูเปอร์ไบค์สปอร์ต ประจำปี 2023 ได้แก่ รถจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู BMW M 1000 R ของ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย
- รางวัล บิ๊กไบค์ Enduro Adventure ดีไซน์ยอดเยึ่ยมแห่งยุค ได้แก่ รถจักรยานยนต์ Ducati DesertX จาก บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด