Mercedes-Benz G-Class รุ่นใหม่สืบทอดตำนานออฟโรดด้วยความทันสมัย

Mercedes-Benz G-Class รุ่นใหม่ถูกเผยโฉมออกมาโดยยังคงเอกลักษณ์ของรถเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง อย่างรูปทรงกล่องของรถ กระจังหน้าที่ตั้งตรง มีล้ออะไหล่ที่ฝาหลังของรถ แต่มาพร้อมกับความทันสมัยตั้งแต่ภายนอกของรถ ขุมพลัง ไปจนถึงห้องโดยสารของรถ

Mercedes-Benz G-Class ใหม่มี 3 ทางเลือกของระบบขับเคลื่อนคือเครื่องยนต์ดีเซล G 450 d เครื่องยนต์เบนซิน G 500 และรุ่นสมรรถนะสูง AMG G 63 ซึ่งรถทั้งหมดมาพร้อมกับเทคโนโลยีไมลด์ไฮบริด Integrated Starter Generator และระบบไฟฟ้า 48-Volt ที่ช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อน 20 แรงม้า และเพิ่มแรงบิด 200 นิวตัน-เมตร

Mercedes-Benz G-Class

รุ่น G 450 d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร 367 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วได้สูงสุด 210 กม./ชม. ส่วน G 500 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 449 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 210 กม./ชม. โดยทั้ง G 450 d และ G 500 ใช้ระบบส่งกำลัง 9G-Tronic เหมือนกัน ขณะที่ AMG-G 63 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร ไบเทอร์โบ 585 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตัน-เมตร ใช้ระบบส่งกำลัง AMG Speedshift 9G ใช้เวลา 4.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 220 กม./ชม.

Mercedes-Benz G 500

ด้านขนาดของรถรุ่นใหม่มีความยาว 4,825 มม. กว้าง 1,931 มม. สูง 2,042 มม. ในรุ่น G 450 d และ G 500 ส่วน Mercedes-AMG G 63 มีความยาว 4,873 มม. กว้าง 1,984 มม. สูง 1,971 มม. แต่รถทั้งหมดมีระยะฐานล้อยาว 2,890 มม. เหมือนกัน ส่วนความสามารถในการลุยถูกระบุว่ามีความสามารถในการไต่ทางชันบนพื้นผิวที่มีความมั่นคงได้เพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ มีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นระหว่างเพลาหน้ากับเพลาหลังน้อยที่สุด 241 มม. สามารถลุยน้ำได้ลึกสุดถึง 70 ซม. สามารถขับโดยที่รถมีความเอียงด้านข้างได้ถึง 30 องศา ในขณะที่มุมไต่ของรถอยู่ที่ 31 องศา ส่วนมุมจากอยู่ที่ 30 องศา

ด้านดีไซน์ภายนอกของรถแม้จะยังคงรูปลักษณ์ที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ มาถึง 45 ปี แต่มีการปรับหลายส่วนของรถอย่างกระจังหน้า กันชน และสปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก โดยรถยังมีไฟหน้า LED และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Interior of All-New G-Class

ห้องโดยสารของรถยังคงลักษณะของรถออฟโรดร่วมกับอุปกรณ์ระดับสูง และยังคงมีมือจับสำหรับผู้โดยสารเอาไว้ นอกจากนี้ยังให้ความทันสมัยด้วยจอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้วพร้อมระบบ MBUX โดยรองรับ Android Auto ไร้สาย และ Apple CarPlay และมีระบบ Augment Reality สำหรับระบบนำทางเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกับผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง

ทางค่ายดาว 3 แฉกยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่จะเริ่มขายรถ แต่บอกว่ารถจะมีราคาเริ่มต้น 122,808 ยูโร

Tagged:

admin24

admin24

RELATED ARTICLES