บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ EVT ซึ่งเป็นผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายรถโดยสารขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารายแรกในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 30 ปี รุกตลาดภูเก็ตโดยบรรลุข้อตกลงด้านการตลาดและการให้บริการหลังการขายในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง กับบริษัท ใหญ่ยนต์ เซอร์วิส 24 จำกัด
นายกฤศ โกษานันตชัย กรรมการผู้จัดการ EVT เปิดเผยว่าตลาดภูเก็ตถือเป็นตลาดภูมิภาคแห่งแรกที่ EVT ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเป็นทางการในการพัฒนาตลาดและรับผิดชอบด้านบริการหลังการขาย โดยขณะนี้ EVT ได้เร่งดำเนินการเจรจากับพันธมิตรในภูมิภาคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในปีนี้ จะสามารถบรรลุข้อตกลงกับพันธมิตรในภูมิภาคอื่นทั่วประเทศ
นายกฤศกล่าวว่าภูเก็ตถือเป็นเมืองใหญ่ที่หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญเรื่องการจัดการมลพิษ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในทางออกของการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดย EVT เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้ามาเป็นเวลามากกว่า 30 ปี
“ภูเก็ต ถือเป็นแห่งแรกที่เรามีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่าเราจะร่วมมือกันทำตลาดและบริการหลังการขาย การมีพันธมิตรที่แข็งแรงอย่างใหญ่ยนต์เซอร์วิส ทำให้เรามีความมั่นใจว่าเราจะสามารถรุกและพัฒนาตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่ลูกค้าที่เรามองเห็น ก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและมีความสนใจที่จะใช้รถโดยสารที่ปลอดมลพิษเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมภูเก็ตให้น่าอยู่และเติบโตอย่างยั่งยืน” นายกฤศ กล่าว
ทางด้านนายจีรเดช หงษ์สา กรรมการผู้จัดการบริษัท ใหญ่ยนต์ เซอร์วิส 24 จำกัด กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของใหญ่ยนต์ เซอร์วิส ที่จะรุกตลาดรถไฟฟ้าที่กำลังเป็นกระแสนิยมของคนไทยทั้งประเทศ และที่ใหญ่ยนต์ เซอร์วิส สนใจ EVT เพราะเป็นองค์กรที่พัฒนารถโดยสารไฟฟ้าอย่างครบวงจรมายาวนานกว่า 30 ปี ความร่วมมือครั้งนี้ นอกเหนือจากมุมมองด้านธุรกิจแล้ว ใหญ่ยนต์ เซอร์วิส ถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ จะได้พัฒนาองค์กรไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นเทคโนโลยี่สำหรับยุคปัจจุบันไปถึงอนาคต
“ผมอยู่ในภูเก็ตมายาวนานถึง 30 ปี ตลอดเวลาที่เราอยู่ในภูเก็ต เรามีความชำนาญด้านการให้บริการบำรุงรักษารถยนต์มาอย่างยาวนาน อีกทั้งเรายังมีเครือข่ายพันธมิตรในภูเก็ต เราจึงมั่นใจว่าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ บวกกับความชำนาญในด้านการให้บริการและเครือข่ายของเรา จะทำให้เรากับ EVT สามารถเติบโตไปด้วยกันในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดข้างเคียง” นายจีรเดช กล่าว
นายจีรเดชกล่าวว่าใหญ่ยนต์ เซอร์วิส 24 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ โดยเฉพาะการซ่อมบำรุง และธุรกิจเต้นท์รถมือสอง มายาวนานมากกว่า 20 ปี ดังนั้นการเข้าร่วมกับ EVT ครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญของใหญ่ยนต์ เซอร์วิส โดย EVT จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้กับใหญ่ยนต์ เซอร์วิส ซึ่งถือเป็นยานยนต์ยุคใหม่ที่สามารถดำเนินการร่วมกับธุรกิจปัจจุบันที่ใหญ่ยนต์ เซอร์วิส ดำเนินการอยู่คือรถยนต์สันดาปภายใน
การเร่งขยายเครือข่ายพันธมิตรทั่วประเทศครั้งนี้ สอดคล้องกับแนวนโยบายภาครัฐ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ได้ออกมาตรการให้บริษัทหรือนิติบุคคลที่เข้าร่วมโครงการซื้อรถโดยสารหรือรถบรรทุกไฟฟ้ามาใช้งานโดยไม่มีกำหนดเพดานราคาขั้นสูง โดยกรณีซื้อรถที่ผลิต/ประกอบในประเทศ สามารถนำมาหักค่าใช้จ่าย ได้ 2 เท่า และในกรณีนำเข้ารถสำเร็จรูปจากต่างประเทศ สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 1.5 เท่า โดยมาตรการนี้จะมีผลใช้บังคับจนถึงสิ้นปี 2568
การออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถโดยสารไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้าครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากมาตรการ EV3 และ EV3.5 ที่เน้นกลุ่มรถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์และรถกระบะเป็นหลัก ซึ่งบอร์ดอีวีคาดว่าการสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งนี้ จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 10,000 คัน ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอีวีของภูมิภาคในรถยนต์ทุกประเภท
นายกฤศ กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้ EVT สามารถเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาตลาดภูเก็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรุกตลาดด้านการท่องเที่ยวและการเดินรถโดยสารสาธารณะที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากรถโดยสารสันดาปภายในไปสู่รถโดยสารไฟฟ้า ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของสังคมเมืองใหญ่ที่เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM2.5
“ความร่วมมือนี้ จะเป็น Showcase ของเราให้กับจังหวัดอื่น ซึ่งปัจจุบันธุรกิจหลักของเราจะอยู่ที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่จากนี้ไป เราจะรุกตลาดภูมิภาคมากขึ้นโดยผ่านพันธมิตรในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้เรากำลังเร่งเจรจาเพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว” นายกฤศ กล่าว