BMW เปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า iX รุ่นใหม่ออกมา ซึ่งนอกจากได้รับการปรับโฉมใหม่มีความสดใหม่ทันสมัยขึ้นแล้ว ยังได้รับการปรับไลน์อัปใหม่ ทำให้มีกำลังเขับเคลื่อนพิ่มขึ้น มีแบตเตอรีความจุมากขึ้น ให้ระยะเดินทางมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
BMW iX ใหม่มี 3 รุ่นให้เลือก เริ่มจากรุ่นพื้นฐาน xDrive45 มีกำลังรวมจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 408 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม. มากับแบตเตอรี 94.8 kWh เดินทางได้ถึง 602 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็ม รองรับการชาร์จไฟแบบเร็วได้ถึง 175 kW ขยับขึ้นมาเป็นรุ่น xDrive60 มีกำลังรวมจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 544 แรงม้า แรงบิด 765 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม. มากับแบตเตอรี 109.1 kWh เดินทางได้ 701 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็ม
ส่วนรุ่นท็อปสุด M70 xDrive มีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 659 แรงม้า แรงบิด 1,100 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 3.8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรี 108.9 kWh ของรถให้ระยะเดินทางได้ 600 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็มความจุ โดยทั้ง xDrive60 และ M70 xDrive รองรับการชาร์จเร็วได้ถึง 195 kW ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC รถทั้งหมดรองรับได้ถึง 22 kW
รถเอสยูวีรุ่นใหม่ใหม่ถูกเพิ่มความสดใหม่ทันสมัยขึ้นด้วยกระจังหน้าไตคู่ใหม่เน้นเส้นเรียวเล็กเฉียบคมที่กรอบโดยมีเส้นเฉียงภายใน นอกจากนี้ไฟหน้ายังมีการแต่งด้วยลายแถบแนวตั้งพร้อมมีไฟ Daytime Running Light แนวตั้ง รวมไปถึงมีไฟ Adaptive LED พร้อมฟังก์ชัน Cornering Light และ City Light ใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีมีแพกเก็จ M Sport Package และ M Sport Package Pro เป็นออปชันให้เลือก
ส่วน iX M70 xDrive ถูกสร้างความแตกต่างจากรุ่นที่มีกำลังน้อยกว่าด้วยดีไซน์เฉพาะอย่างกระจังหน้าเฉพาะรุ่นพร้อมโลโก้ M กระจกข้างสีดำ และล้อ M Specific Light-alloy ขนาด 22 นิ้ว โดยที่มีแพกเก็จ M Sport Package และ M Sport Package Pro เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมากับรถ
ห้องโดยสารของรถถูกระบุว่ามาในแนวทางความหรูหราที่ล้ำหน้า พร้อมมี BMW iDrive ล่าสุดบนพื้นฐานของ BMW Operating System ที่ควบคุมผ่านการสัมผัสบนจอ Curved Display และการสั่งงานด้วยเสียง รวมทั้งมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเบาะหน้าปละพวงมาลัยปรับความอุ่น การทำงาน Comfort Access ระบบ Driving Assistant Plus และระบบเสียง Harman Kardon Surround Sound
รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จะเริ่มทำตลาดทั่วโลกตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ โดยมีสหรัญอเมริกา อังกฤษ และเยอรมนีเป็นตลาดหลัก
