Bentley Continental GT Speed รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 4 ถูกเผยโฉมออกมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฮบริดและการถูกระบุว่าเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดของค่าย รวมทั้งมากับการพลิกดีไซน์ด้านหน้าใหม่จากที่เคยยึดมาตั้งแต่เจเนเรชันแรก
Bentley Continental GT Speed ที่ถูกเผยโฉมออกมาพร้อมกับตัวถังเปิดประทุนหรือ Continental GTC Speed ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ซึ่งมี Twin Single-scroll เทอร์โบชาร์จเจอร์และอี-มอเตอร์สำหรับลดเทอร์โบแล็กเพื่อให้มีการเร่งความเร็วและการตอบสนองดีขึ้น และมีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 190 แรงม้าช่วยเสริมกำลังขับเคลื่อน ทำให้มีกำลังรวมจากระบบไฮบริด 782 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดถึง 1,000 นิวตัน-เมตร
ขุมพลังไฮบริดของรถแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นใหม่ถูกจับคู่กับระบบส่งกำลังดูอัลคลัตช์ 8 สปีดพร้อมมี Electronic Limited-Slip Differential ทำให้ใช้เวลา 3.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 335 กม./ชม.
ในส่วนแบตเตอรีที่ให้พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้ามีความจุ 25.9 kWh ทำให้รถมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 29 กรัม/กิโลเมตร และสามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้ 81 กิโลเมตร โดยทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. ขณะที่การชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีใช้เวลา 2 ¾ ชั่วโมง ด้วยการรองรับการชาร์จไฟสูงสุด 11 kW
รถรุ่นใหม่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ถูกระบุว่านำมาจาก R-Type Continental ในปี 1952 ทำให้รถมาพร้อมกับรูปทรงที่มีพลังซึ่งคุ้นเคยจากรุ่นก่อนหน้า แต่ด้านหน้าของรถมีไฟหน้าคู่ใหม่แทนไฟหน้า 4 ดวงเหมือนรุ่นก่อนๆ พร้อม Crystal Diamond-cut Effect ภายใน ขณะที่ด้านหลังของรถมีการออกแบบกันชน ฝาท้าย และปลายท่อไอเสียให้แตกต่างไปจากรุ่นก่อน ส่วนไฟท้ายยังทรงรูปทรงรีเหมือนเดิม ส่วนล้อที่มากับรถมีขนาด 22 นิ้ว
ห้องโดยสารของรถเน้นความหรูและความสะดวกสบายด้วยเบาะหน้าปรับได้ 20 ทิศทางพร้อมมีลายที่เบาะ ใช้ไม้ในการแต่ง มีระบบเสียง 650 วัตต์ และลำโพง 10 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมากับรถ โดยมีระบบเสียงจาก Bang & Olufsen และ Naim เป็นออปชันให้เลือก รวมทั้งมี Rotating Display เหนือคอนโซลกลางซึ่งมี 3 ด้านโดยมีด้านหนึ่งเป็นจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหนึ่งมี 3 แป้นอนาล็อก ขณะที่อีกด้านเป็นแผงไม้
ในส่วนของ GTC Speed หรือตัวถังเปิดประทุนมาพร้อมกับหลังคาผ้าที่มีให้เลือก 7 สีใช้เวลา 19 วินาทีในการเปิด-ปิดที่ความเร็วไม่เกิน 48 กม./ชม. ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.4 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 285 กม./ชม.
ทาง Bentley ยังไม่เปิดเผยราคารถออกมา ส่วนการผลิตและส่งมอบรถจะเริ่มช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี