BYD เปิดตัวรถปิกอัพปลั๊กอินไฮบริดรุ่น Shark ที่เม็กซิโก ใช้เครื่องยนต์พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการขับเคลื่อน พร้อมดีไซน์ดุดันและทันสมัยทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร รวมทั้งมีคุณสมบัติต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานและการลุยออฟโรด
BYD Shark อยู่บนแพลตฟอร์ม DMO-Off-road Plug-in Super Hybrid ใช้เครื่องยนต์ 1.5T และมอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังรวมจากระบบมากกว่า 430 แรงม้า พร้อมกับใช้แบตเตอรี 29.58 kWh ทำให้เดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 100 กิโลเมตร ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวม 75 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยแบตเตอรีรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC 40 kW ทำให้ใช้เวลา 20 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 30-80 เปอร์เซ็นต์
ด้านสมรรถนะของรถใช้เวลา 5.7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม. ส่วนความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นอยู่ที่ 210 มม. มีมุมไต่ 31 องศา มุมจาก 19.3 องศา พร้อมมี 3 โหมดสำหรับลุยออฟโรดให้เลือกใช้ระหว่าง Sand, Mud และ Snow โดยรถยังรองรับการใช้งานด้วยการมีความจุในการบรรทุก 1,450 ลิตร รองรับน้ำหนักบรรทุก 835 กิโลกรัม และสามารถลากจูงได้ 2,500 กิโลกรัม
ขนาดของรถมีความยาว 5,457 มม. กว้าง 1,971 มม. สูง 1,925 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,260 มม. โดยมีสามสีให้เลือกสำหรับภายนอกรถระหว่างสีขาว ดำ และน้ำเงิน ขณะที่ห้องโดยสารของรถแต่งด้วยวัสดุสีดำตัดด้วยสีส้ม พร้อมจอมัลติมีเดียขนาด 12.8 นิ้วพลิกจอได้ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งมีฟังก์ชันคาราโอเกะ ส่วนจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ขนาด 12 นิ้ว
รถยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียงและที่ชาร์จไร้สาย 50W ให้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีกล้องพาโนรามิกแสดงภาพ 360 องศา และภาพใต้ท้องรถ 180 องศา พร้อมกับสามารถควบคุมบางการทำงานของรถผ่านสมาร์ทโฟนได้
รถปิกอัพปลั๊กอินไฮบริดมี 2 เกรดให้เลือกโดยมีราคาเริ่มต้น 899,980 เม็กซิกันเปโซ หรือประมาณ 1,950,000 บาท
