เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยโฉมยานยนต์ภายใต้ 5 แบรนด์หลัก อันได้แก่ HAVAL, TANK, ORA, POER และ WEY ที่งานเซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตโมบิล อินดัสตรี เอ็กซิบิชั่น ครั้งที่ 20 หรือออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2023 ขนทัพยานยนต์พลังงานใหม่จัดแสดงอย่างครบครัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชิญสื่อมวลชนและผู้แทนจำหน่ายรวมทั้งหมด 300 คนจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกร่วมสัมผัสยานยนต์พลังงานใหม่และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่บูธของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ภายในงานออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2023 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติ (NECC) จนถึงวันที่ 27 เมษายนนี้
มร. ปาร์เกอร์ ฉี รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายตลาดระหว่างประเทศ เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวภายในงานแถลงข่าวต่อคณะสื่อมวลชนว่า “การพลิกโฉมอย่างเต็มกำลังของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อมุ่งสู่พลังงานใหม่มีความคืบหน้าที่ดี ด้วยการให้ความสำคัญกับระบบนิเวศพลังงานสีเขียว (Forest Ecosystem) เพื่อสร้าง “ประสบการณ์การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และดียิ่งขึ้น” ให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทฯ ที่ว่า “Improving Little by Little Everyday” หรือการพัฒนาทีละน้อย ๆ ในทุก ๆ วัน อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 15 รุ่น งานออโต้ เซี่ยงไฮ้ 2023 ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้แสดงความเป็นผู้นำและนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลกต่าง ๆ มากมาย โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ 5 แบรนด์หลักสู่สายตาแฟน ๆ ทั่วโลก ดังนี้:
GWM HAVAL เผยโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฮไลท์รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกในโลก ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดกลางที่ใช้พลังงานใหม่ (โดยใช้ชื่อว่า Fierce Dragon MAX ในตลาดประเทศจีน) เตรียมเปิดตัวออกวางจำหน่ายในประเทศจีนเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ก่อนจะเปิดตัวสู่ตลาดโลก ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล่าสุด GWM Hi4 ซึ่งย่อมาจาก ‘Hybrid Intelligent Four-Wheel Drive’ เหนือชั้นด้วยสมรรถนะการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ ในต้นทุนที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นบนระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ประกอบด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อน 3 ชุด (เครื่องยนต์ 1 ชุด และ อี-มอเตอร์ 2 ชุด) รถยนต์รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมแนวคิดการออกแบบใหม่ที่มีภาพลักษณ์ที่อ่อนเยาว์และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยี Hi4 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์นี้ช่วยให้รถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นนี้ขับเคลื่อนต่อไปได้แม้แบตเตอรี่ที่มีขนาด 20 kWh หมดพลังงาน มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานมากถึง 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) สามารถขับเคลื่อนได้ที่ระยะทางสูงสุด 1,200 กิโลเมตร เมื่อมีน้ำมันเต็มถังและชาร์จหนึ่งครั้ง โดยสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 105 กิโลเมตร และด้วยศักยภาพของตัวรถที่สามารถขับขี่ได้แบบไฮบริดโดยไม่ต้องชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่มีพลังงานต่ำ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อว่ารถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีความเหมาะสมที่จะถูกนิยามว่าเป็นรถ “EV+” อย่างแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพทัดเทียมกับระบบไฮบริดที่ไม่ต้องชาร์จไฟ
HAVAL Fierce Dragon MAX ไม่เพียงมีการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นล้ำสมัย แต่ยังโดดเด่นด้วยนวัตกรรมที่ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์เอสยูวีดั้งเดิมให้สูงขึ้นอีกขั้น มาพร้อม Coffee OS ระบบปฏิบัติงานในห้องโดยสารอัจฉริยะเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วยจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และระบบจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (W-HUD) ขนาด 10 นิ้ว ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ยอดเยี่ยมให้แก่เหล่าผู้ขับขี่
HAVAL Fierce Dragon MAX เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าพลังงานใหม่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนทุกเส้นทาง เหมาะสำหรับทุกสไตล์การขับขี่ ถือเป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ HAVAL ในการพลิกโฉมสู่พลังงานใหม่ Fierce Dragon MAX จึงได้สร้างมาตรฐานใหม่และเป็นผู้นำรถยนต์เซกเมนต์เอสยูวีพลังงานใหม่ โดยมีข้อมูลทางเทคนิคดังนี้
- ขนาดตัวถัง: 4,758 มม. × 1,895 มม. × 1,725 มม.
- ระยะฐานล้อ: 2,800 มม.
- พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ: 551 ลิตร (มาตรฐาน VDA) และ 1,377 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2
- พละกำลัง: 205 กิโลวัตต์ และ 585 นิวตันเมตร พร้อมอี-มอเตอร์ 150 กิโลวัตต์และ 350 นิวตันเมตรที่ด้านหลัง
GWM Pickup รถกระบะ 6×6 เวอร์ชั่นใหม่ของ GWM POER ได้รับการเปิดตัวพร้อมกับ POER Shanhai PHEV/HEV รถกระบะไฮบริดขนาดใหญ่สมรรถนะสูง ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติล้ำสมัยมากมายที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มรถกระบะพลังงานใหม่
รถกระบะ Shanhai Cannon คือยานยนต์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับระยะฐานล้อ 3,350 มม. มิติตัวถังมีขนาด 5,440 มม. × 1,991 มม. × 1,924 มม. ระยะฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษนี้ ทำให้ตัวรถมีพื้นที่กว้างขวางและโอ่โถงเทียบเท่ารถเอสยูวีขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ตามแนวขวางเพิ่มขึ้นถึง 60 มม.จึงมีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับที่พักข้อศอก ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายในการขับขี่และเดินทางมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระกว้างขวางมากถึง 1,140 ลิตร พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่สูง สง่างาม และทรงพลัง ขนาดตัวถังที่เหนือกว่าของรถกระบะรุ่นนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังแสดงถึงตัวตนและรสนิยมของเจ้าของผ่านรูปลักษณ์ของตัวรถที่สูงสง่าและทรงพลังอีกด้วย
Cannon ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0T V6 เทอร์โบชาร์จคู่ และเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T VGT เทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังสูงสุด 260 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.49 วินาที เพลาหน้าและหลังมีระบบล็อกเฟืองท้าย ชุดเกียร์ส่งกำลังระบบล็อกแบบกลไก 4A+LOCK และสามารถโลดแล่นบนถนนได้หลากหลายรูปแบบอย่างง่ายดายด้วยชุดทดเกียร์ในโหมด 4L
รถกระบะรุ่นนี้มาพร้อมแผงมาตรวัดอันหรูหราขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมกลางขนาด 14.6 นิ้ว แสดงผลความละเอียดคมชัดสูงและมีสีสันชัดเจน อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมการขับขี่แสดงผลบนกระจกหน้า HUD ซันรูฟขนาดใหญ่ ระบบเครื่องเสียงของแบรนด์ Yanfeilishi พร้อมลำโพง 10 ตัว และระบบตัดเสียงรบกวน ANC เพื่อห้องโดยสารที่เงียบสงบและสะดวกสบาย
ด้วยศักยภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างหลากหลาย Shanhai Cannon สามารถตอบสนองความต้องการเดินทางของลูกค้าได้เหนือกว่าด้วยระบบพ่วงท้ายมาตรฐานระดับประเทศ การออกแบบโครงสร้างต่อพ่วงอุปกรณ์ลากจูงแบบคู่ ระบบตะขอหัวบอลสำหรับลากจูง และแท่นเซฟตี้ยึดสายลาก รองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุด 3.3 ตัน และมีช่องจ่ายไฟฟ้าที่ส่วนลากจูงในตัว เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องดัดแปลงระบบการจ่ายไฟฟ้าดั้งเดิมของตัวรถ
GWM TANK ได้จัดแสดงยานยนต์พลังงานใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ TANK 400 PHEV ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในโลก และ TANK 500 PHEV รถเอสยูวีพลังงานใหม่สไตล์ออฟโรดระดับพรีเมียมขนาดกลางถึงใหญ่ที่เปิดจำหน่ายล่วงหน้าทั่วโลก นอกจากนี้ GWM TANK ยังนำเสนอฟีเจอร์เด่นต่าง ๆ มากมาย อาทิ เทคโนโลยีออฟโรดหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ โดยในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเปิดตัวรถยนต์แบรนด์ TANK ทั้งหมด 2 รุ่น คือ TANK 500 HEV และ TANK 300 ซึ่งจะช่วยยกระดับความเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานใหม่ในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมออฟโรดเอสยูวี
GWM WEY มุ่งเน้นแนวคิด “พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ไร้ความกังวล” ด้วยการเผยโฉม WEY Gaoshan PHEV รถเอ็มพีวีรุ่นแรกสู่สายตาคนทั่วโลก พร้อมกับจัดแสดง Lanshan PHEV รถเอสยูวีไฟฟ้า 6 ที่นั่ง เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์สู่ตลาดยานยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ GWM ORA ยังเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นอีกด้วย
ด้วยเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคตของพลังงานไฟฟ้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดแสดงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย อาทิ เครื่องยนต์ 3.0T V6 + 9HAT + แพลตฟอร์ม P2, ระบบขับเคลื่อน Hi4, แพลตฟอร์ม TANK และแพลตฟอร์มซูเปอร์ออฟโรด 6×6 แพลตฟอร์มเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุดอย่าง Hybrid Intelligent 4WD หรือ Hi4 ซึ่งประกอบด้วยระบบขับเคลื่อน 2 รูปแบบ มีพละกำลังสูงสุด 340 กิโลวัตต์ ครอบคลุมรถยนต์กลุ่ม A-C โดยได้เสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากสื่อมวลชนและเหล่าผู้แทนจำหน่าย ระบบขับเคลื่อนอี-ไฮบริดดังกล่าวจะปฏิวัติตลาดรถยนต์เอสยูวีไฮบริดด้วยการมีประสิทธิภาพทางความร้อนระดับชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ 41.5% ด้วยระบบการเผาไหม้ที่ก้าวล้ำหน้า ระบบหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่นแรงดันสูง และเทคโนโลยีการหมุนเวียนไอเสียแรงดันต่ำ
กลยุทธ์การควบคุมและจัดการพลังงานอัจฉริยะของแพลตฟอร์ม Hi4 ทำให้มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่มความประหยัดพลังงานในยานยนต์ให้สูงขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับระบบการจัดการพลังงานดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมีอัตราเร่งที่เป็นเลิศ สามารถเร่งได้ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 2.88 วินาที และเร่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.4 วินาที เร็วกว่าระบบขับเคลื่อนที่ใช้มอเตอร์คู่แบบดั้งเดิม 1 วินาทีและ 1.8 วินาทีตามลำดับ เมื่อขับขี่ภายใต้สถานการณ์เดียวกัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยึดมั่นในแนวคิด ให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง “user-centric” มาอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าในยุคพลังงานใหม่ผ่านการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุ่มเงินลงทุน 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 1 แสนล้านบาท ในการรวบรวมทรัพยากรและผนึกกำลังบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลกมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มโมดูลาร์เจนเนอเรชั่นใหม่ 2 รุ่นของเกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ถูกออกแบบมาภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาแบบครบวงจรระดับโลก และสนามทดสอบที่มีความหลากหลายของสภาพอากาศและสภาพถนน ตลอดจนการคำนึงถึงเทรนด์ของเทคโนโลยี การจัดการความร้อน มลพิษไอเสีย การบริโภคเชื้อเพลิง และองค์ประกอบสำคัญอื่น ๆ ที่สนับสนุนการพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
ด้วยการยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในปรัชญายานยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ว่า “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า มาตรฐานสูงกว่า ปลอดภัยกว่า” หรือ “Greener, Higher, and Safer” เกรท วอลล์ มอเตอร์ จึงให้ความสำคัญกับระบบนิเวศพลังงานสีเขียว เพื่อเร่งการยกระดับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ที่มีคุณภาพเหนือกว่าและอัจฉริยะยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่ทั่วโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมุ่งมั่นที่จะสานต่อและผลักดันพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะผ่านระบบนิเวศพลังงานสีเขียว เพื่อให้สอดคล้องกับคำประกาศของบริษัทฯ ในปี 2564 ที่ต้องการมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ภายในปี 2588
ในฐานะหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในประเทศจีนที่มุ่งพัฒนาพลังงานไฮโดรเจน ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ เสร็จสิ้นการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของระบบโซลาร์, พลังงาน, แบตเตอรี่, พลังงานไฮโดรเจน และระบบขับเคลื่อนยานยนต์ที่มีความมั่นคง มีเครือข่ายครอบคลุม และเป็นแบบกระจายศูนย์ซึ่งจะถูกแผ่ขยายสู่ทั่วโลกในอีกไม่ช้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเป็นบริษัทรถยนต์รายแรกที่ทำลายข้อจำกัดของการแปลงพลังงานจากอนุภาคของแสง (Photon) เป็นอนุภาคประจุไฟฟ้า (Electron) ซึ่งอยู่ที่ 20% จึงถือครองสถิติโลกและสร้างความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง