Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ Custom Vehicle Operations™ (CVO™) ใหม่ล่าสุด เพื่อคงไว้ซึ่งตำนานแห่งวงการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Grand American Touring อย่างมีระดับ ได้แก่รุ่น CVO™ Street Glide® และ รุ่น CVO™ Road Glide® ของครึ่งปีหลัง 2023 ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสประสบการณ์ตัวรถได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Harley-Davidson ทั่วประเทศ รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ Street Glide และ รุ่น CVO™ Road Glide ใหม่ล่าสุด นำเสนอเทคโนโลยีที่เหนือชั้น ประสบการณ์การขับขี่ที่สบายยิ่งขึ้น พร้อมกับสุดยอดสมรรถนะของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® VVT 121 แบบไดนามิกใหม่อันทรงพลัง
นิยามใหม่ของการออกแบบที่ทันสมัย
รถมอเตอร์ไซค์ CVO™ Street Glide และ CVO™ Road Glide รุ่นใหม่ สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบโฉมใหม่ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากรูปทรงที่คุ้นเคยของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Grand American Touring ในรุ่นก่อน ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแฟร์ริ่งที่มีช่องระบายอากาศในตัว โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED และไฟเลี้ยวที่ผสานรวมกับปลายแฟร์ริ่งด้านนอกทั้งสองรุ่นมาพร้อมแฟร์ริ่งที่มีช่องระบายอากาศในตัว โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED และไฟเลี้ยวที่ผสานรวมกับปลายแฟร์ริ่งด้านนอก นอกจากนี้ องค์ประกอบด้านดีไซน์โฉมใหม่ ยังรวมไปถึง บังโคลนหน้าที่ได้รับการปรับรูปทรง ถังน้ำมันขนาด 23 ลิตร ด้วยมุมเอียงด้านข้างที่โดดเด่น และกระเป๋าข้างที่มีรูปทรงสามมิติที่กลมกลืนไปกับแฟร์ริ่งและถังเชื้อเพลิง ล้อ Combo Cast แบบซี่โฉมใหม่ที่สร้างความโดดเด่นด้วยขอบล้ออะลูมิเนียมสีดำตัดกับล้อ โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมตัวเลือกสี และการตกแต่งรายละเอียดของตัวรถถึง 2 แบบ
ประสิทธิภาพอันเหนือชั้นของเครื่องยนต์โฉมใหม่
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® VVT 121 แบบ V-Twin ขนาด 121 ลูกบาศก์นิ้ว โฉมใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ของแรงบิดและปริมาตรกระบอกสูบที่ติดตั้งมาจากโรงงาน บนรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Touring พร้อมโดดเด่นด้วยหัวกระบอกสูบระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ช่วยปรับระดับคลายความร้อนให้คลายตัวอย่างเหมาะสม จังหวะวาล์วแปรผัน (VVT) ระบบท่อร่วมไอดี และระบบไอเสียสมรรถนะใหม่
ดีไซน์ของรถมอเตอร์ไซค์ CVO™ Street Glide® และ CVO™ Road Glide® รุ่นใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมสมรรถนะและความสบายในการขับขี่ โดยรุ่น CVO™ Street Glide® มีน้ำหนักสุทธิลดลงกว่า 14 กิโลกรัม และรุ่น CVO™ Road Glide® ลดลงกว่า 15.9 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบกันสั่นสะเทือน SHOWA ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและสบายยิ่งขึ้น หากเทียบกับรุ่น CVO™ ก่อนหน้า รวมถึงการยกตัวของช่วงล่างด้านหลังที่เพิ่มมากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ระบบเบรก Brembo แบบพรีเมียม ที่มอบประสิทธิภาพในการเบรก และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่
ครั้งแรกของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ Street Glide และรุ่น CVO™ Road Glide® ที่ผู้ขับสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้อิสระ ทั้ง Road Sport และ Rain ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ผสมผสานกับแรงส่งกำลัง แรงเบรกของเครื่องยนต์ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง (C-ABS) และระบบ Traction Control ป้องกันท้ายสะบัด (C-TCS)
ระบบควบคุมสมดุลของอากาศ มาพร้อมกระจกบังลมบนแฟร์ริ่งโฉมใหม่ และใบพัดลมที่สามารถปรับทิศทาง เพื่อมอบ ‘ความพลิ้วไหว’ ตลอดการขับขี่ แรงปะทะระหว่างหมวกกันน็อคและลมมีค่าลดลงถึง 60 เปอร์เซนต์ จากการทดสอบความเร็วในอุโมงค์ เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันในปี 2022 ระบบควบคุมสภาวะสมดุลของอากาศแบบใหม่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการขับขี่มากขึ้นหากเทียบกับรุ่นก่อน
ระบบอินโฟเทนเมนต์ Skyline™ OS
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ Street Glide® และรุ่น CVO™ Road Glide® ติดตั้งชุดระบบอินโฟเทนเมนต์ Skyline™ OS และปรับโฉมหน้าจอแบบอะนาล็อกและสวิตช์ควบคุมใหม่ทั้งหมด ด้วยหน้าจอสัมผัสสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลระดับพรีเมียมนี้สามารถปรับแต่งได้ถึงสามรูปแบบ รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ Apple และ Android ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wi-Fi) และสัญญาณ Bluetooth® สำหรับชุดหูฟังไร้สาย ทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมหน่วยความจำสำรองสำหรับมัลติเมีย และช่องเสียบ USB-C ขับขี่เร้าใจไปกับชุดเครื่องเสียง Harley-Davidson ประสิทธิภาพสูงสุดระดับพรีเมียมจาก Rockford Fosgate® Stage II ส่งแรงกำลังด้วยแอมพลิฟายเออร์ RMS 500 วัตต์ โฉมใหม่
ภายในงาน CVO™ Open House เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบและสนใจรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ได้ร่วมสัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์ CVO™ ใหม่ล่าสุดทั้ง 2 รุ่น สำหรับรุ่น CVO™ Street Glide® ราคาเริ่มต้นที่ 3,152,000 บาท (สำหรับรุ่นปกติ) 3,375,000 บาท (สำหรับรุ่นสีคัสตอมทูโทน) และ CVO™ Road Glide® ราคาเริ่มต้นที่ 3,207,000 บาท (สำหรับรุ่นปกติ) 3,400,000 บาท (สำหรับรุ่นสีคัสตอมทูโทน)
โปรแกรม H-D CERTIFIED™
นอกจากนี้ Harley-Davidson ได้มอบโปรแกรม H-D Certified™ สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson มือสองที่ได้การรับรองและตรวจสอบคุณภาพ 110 จุด ตั้งแต่ระบบการทำงานของเครื่องยนต์ ยางรถ ล้อรถ ระบบควบคุมการทำงานต่าง ๆ ระบบไฟ ระบบเครื่องเสียง ที่นั่ง จนถึงสีของตัวรถ เพื่อให้ลูกค้าขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ตรงตามมารตฐานของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson สำหรับผู้ที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการรับรอง H-D Certified จะได้รับประกันตัวรถยาวนาน 12 เดือน (ไม่จำกัดระยะทาง) พร้อมรับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมสมาชิก H.O.G. นาน 12 เดือน การบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน และ H-D™ Extended Service Plan ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมตัวรถหลังการซื้อขาย
รถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการรับรอง H-D Certified มีจำหน่ายเฉพาะที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson เท่านั้น