ตามหลังการเปิดตัว Civic เจนเนเรชันที่ 11 ตัวถังซีดานเพียง 2 เดือน ตอนนี้ Honda Civic Hatchback ใหม่ได้ถูกเผยโฉมออกมาอย่างเป็นทางการแล้วที่สหรัฐอเมริกา โดยถูกระบุว่ามุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีความกระตือรือร้น อายุน้อย ด้วยลักษณะของรถที่มีความอเนกประสงค์มากขึ้น มีลักษณะการขับที่สปอร์ตขึ้น และการออกแบบภายนอกของรถในสไตล์ Euro-inspired
Honda Civic Hatchback ใหม่ถูกระบุว่าได้แรงบันดาลใจมาจากลักษณะที่เหมือนรถคูเป้ของรถสปอร์ตแบ็กยุโรป บนพื้นฐานของตัวถังซีดานที่มีทิศทางการออกแบบที่เรียบง่ายและสะอาด พร้อมมีการใช้โครงสร้างแฮทช์แบ็กใหม่ที่มีน้ำหนักเบา พร้อมกับมีแนวหลังคาที่ดูสะอาด ในขณะที่โครงสร้างของรถถูกเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้เทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้ว Civic แฮทช์แบ็กใหม่ได้มีการขยับเสาของกระจกหน้าไปที่ด้านหลัง 1.96 นิ้ว ระยะฐานล้อยาวขึ้น 1.4 นิ้ว และระยะระหว่างล้อหลังมีความกว้างขึ้น 0.5 นิ้ว แต่หากเทียบกับตัวถังซีดานเจนเนเรชันเดียวกัน ตัวถังแฮทช์แบ็กจะมีช่วง Overhang ด้านหลังที่สั้นกว่าและความยาวโดยรวมสั้นกว่าตัวถังซีดาน 4.9 นิ้ว โดยอีกสิ่งใหม่ในตัวถังแฮทช์แบ็กโฉมใหม่คือมี 2 สีใหม่คือสี Boost Blue Pearl และสี Smoky Mauve Pearl ให้เลือก
ในส่วนของเครื่องยนต์ตัวถังแฮทช์แบ็กรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกามี 2 ทางเลือกคือเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 158 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ 1,700-4,500 รอบ/นาที เหมือนกับตัวถังซีดานที่ขายในสหรัฐอเมริกา แต่ต่างกันตรงที่นอกจากจะมีเกียร์ CVT ส่งกำลังแล้วยังมีเกียร์แมนนวล 6 สปีดให้เลือกใช้ทั้ง 2 เครื่องยนต์ด้วย ในขณะที่เกียร์ CVT มีโหมดสปอร์ตให้เลือกใช้ในบางเกรด
สำหรับภายในห้องโดยสารถูกระบุอย่างชัดเจนว่ามีหลายส่วนของการออกแบบและชิ้นส่วนที่มาจากห้องโดยสารของตัวถังซีดาน กับพัฒนาการของการออกแบบภายในรถที่มีคนเป็นศูนย์กลางจาก Civic เจนเนเรชันแรกๆ อย่างไรก็ตามที่เบาะหลังของตัวถังแฮทช์แบ็กจะมาพร้อมกับกระจกข้างที่ใหญ่กว่า พร้อมกับมีหน้าต่างขนาดเล็กที่มุมเสา C-pillar
นอกจากนี้ที่เบาะหลังยังมีพื้นที่ส่วนขาเพิ่มขึ้นเกือบ 1.4 นิ้ว รวมไปถึงมีพื้นที่ส่วนหัวที่เพิ่มขึ้นด้วย ในขณะที่พื้นที่เก็บของด้านหลังสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นจากฝาท้ายที่กว้างขึ้น 1.6 นิ้ว พร้อมกับการพับเบาะหลังได้ในอัตราส่วน 60/40
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารมีเบาะ Body Stabilizing Seat ใหม่ที่ถูกระบุว่าเพิ่มความสบายมากขึ้นเมื่อขับรถระยะไกล สำหรับวัสดุที่หุ้มเบาะมีทั้งผ้าหรือหนังพร้อมรูระบายอากาศขึ้นอยู่กับเกรดของรถ เช่นเดียวกับจอแสดงข้อมูลผู้ขับที่มีทั้งการใช้ LCD สีขนาด 7 นิ้วหรือจอ LCD สีความละเอียดสูงขนาด 10.2 นิ้วตามเกรดของรถ แต่ทุกเกรดมาพร้อมจอระบบ Infotainment ขนาด 9 นิ้วพร้อมกับ Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto รวมไปถึงมีระบบชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย พร้อมมีระบบเสียงของ Bose เพื่อสร้างความเพลิดเพลินขณะเดินทาง
Civic แฮทช์แบ็กใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยขับ Honda Sensing ที่ใช้ระบบกล้องใหม่ซึ่งมีระยะการทำงานไกลขึ้นและมุมภาพกว้างขึ้น พร้อมกับใช้หน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเพื่อช่วยให้มีความรวดเร็วและแม่นยำขึ้นในการจำแนกคนเดินถนน คนขี่จักรยาน และรถคันอื่น รวมไปถึงเล้นแบ่งเลนและสัญญาณจราจร สำหรับการขายน่าจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนที่จะถึงนี้ในสหรัฐอเมริกา โดยถูกคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึง 20,000 ดอลล่าร์ในเกรดพื้นฐาน