ปี 2016 Honda WR-V รถซับคอมแพกต์เอสยูวีบนพื้นฐานเดียวกับ BR-V ถูกเปิดตัวออกมาครั้งแรกที่บราซิลเพื่อเป็นที่ถูกผลิตและขายในอเมริกาใต้และอินเดียโดยเฉพาะ ล่าสุดเจเนเรชันที่ 2 ของรถรุ่นนี้ถูกเปิดตัวออกมาที่อินโดนีเซียหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยนำเสนอออกมาในชื่อ SUV RS Concept ที่งานมอเตอร์โชว์ในอินโดนีเซีย โดยWR-V ใหม่มีขาย 2 เกรดคือ E และ RS ซึ่งเกรดหลังมีให้เลือกในแบบมาพร้อมกับ Honda Sensing
Honda WR-V ถูกระบุว่ามีการออกแบบภายนอกโดยเป็นการรวมลักษณะของรถเอสยูวีเข้ากับความสปอร์ต ด้านหน้าของรถมีกระจังหน้าที่มีดีไซน์ล้ำหน้า พร้อมไฟหน้า LED ทรงยาวที่เฉียบคมให้ความรู้สึกพรีเมียม รวมทั้งมีการแต่งด้วยดาร์กโครมให้ความสปอร์ต ขณะที่ด้านข้างของรถให้ความรู้สึกไหลลื่นและสปอร์ตด้วยเส้นที่ยาวตั้งแต่ไฟหน้าผ่านตัวรถด้านข้างไปจนถึงไฟท้าย
สำหรับด้านหลังถูกระบุว่ามีการออกแบบเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ด้วยแถบไฟ LED นอกจากนี้ยังมีการออกแบบประตูหลังของรถในลักษณะของรถคูเป้ด้วยที่การมีเปิดประตูอยู่ที่ข้างกระจกหน้าต่างของประตูหลัง ขณะที่ขนาดของรถมีความยาว 4,060 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,608 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,485 มม. นอกจากนี้ใต้ท้องรถยังมีความสูงจากพื้น 220 มม. เพื่อให้ความมั่นใจในการเดินทางไปบนสภาพถนนต่างๆ สำหรับล้อที่มาพร้อมกับรถหากเป็นเกรด RS จะเป็นล้ออัลลอยทูโทนขนาด 17 นิ้ว ส่วนเกรด E มีขนาด 16 นิ้ว
ในห้องโดยสารของรถเอสยูวีรุ่นใหม่ถูกระบุว่ามีการออกแบบค็อกพิตเพื่อให้มีพื้นที่กว้างสำหรับผู้ขับ โดยเบาะหุ้มด้วยหนังและผ้า แต่ที่คอนโซลกลางและที่ท้าวแขนระหว่างเบาะหน้าเป็นหนัง นอกจากนี้ยังผสานความสปอร์ตเข้ากับการออกแบบที่พรีเมียมในห้องโดยสารของรถ พร้อมกับมีทั้งช่องต่อไฟ 12V และ 2 ช่องต่อยูเอสบี รวมไปถึงมีจอ TFT ขนาด 4.2 นิ้วสำหรับแสดงข้อมูลผู้ขับ และจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วตรงกลางที่มาพร้อมกับฟังก์ชันต่างๆ อย่างการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
ทาง Honda ยังระบุว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ของตนมีพื้นที่ในห้องโดยสารทั้งส่วนเข่า ขา และศรีษะที่มากขึ้น ส่วนด้านหลังของรถมีพื้นที่เก็บของความจุ 380 ลิตร โดยในเกรด RS และ RS พร้อมHonda Sensing ยังพับเบาะหลังได้ 40:60 รวมไปถึงมีการทำงาน Rear Seat Reminder เพื่อเตือนผู้ขับให้ตรวจสอบที่เบาะหลังก่อนออกจากรถ
ด้านการขับเคลื่อนของ WR-V ใหม่เป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร L i-VTEC ที่มีกำลัง 121 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบ/นาที โดยใช้เกียร์ CVT พร้อมเทคโนโลยี G-Design Shift นำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อ ที่ทางHonda ระบุว่าให้พลังในสมรรถนะการเร่งและยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลง 4 เปอร์เซ็นต์ โดยทางผู้ผลิตระบุว่าจากทั้งเครื่องยนต์ที่มีพลังและระบบส่งกำลังทำให้มีความสนุกในการขับบนสภาพถนนต่างๆ ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ส่วนHonda Sensing ที่มาพร้อมกับรถจะมีการทำงานเพื่อความปลอดภัยต่างๆ อย่างระบบช่วยเบรกเมื่ออาจเกิดการชนที่ด้านหน้า ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ระบบเตือนและช่วยควบคุมรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน
สำหรับราคาของ WR-V ในอินโดนีเซียเริ่มตั้งแต่ 271,900,000-309,900,000 รูเปียห์หรือประมาณ 652,000-743,000 บาท
