Hyundai เผยโฉม Ioniq 9 รถไฟฟ้าระดับเรือธงที่มากับพื้นที่กว้างขวางในห้องโดยสารสำหรับเบาะ 3 แถวมีทั้งรูปแบบ 6 หรือ 7 ที่นั่งออกมา โดยระบุว่าเป็นรถที่ถูกออกแบบเพื่อผู้ที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อ พร้อมกับพื้นที่กว้าง ความเป็นส่วนตัว และความผ่อนคลาย
Hyundai Ioniq 9 ซึ่งอยู่บนสถาปัตยกรรม E-GMP โดยมีระยะฐานล้อยาว 3,130 มม. ถูกระบุว่าได้รับการออกแบบภายนอกเพื่อสะท้อนถึงพันธสัญญาของบริษัทในการผสานนวัตกรรมแอโรไดนามิก ความน่าถึงพอใจ และสไตล์ที่ล้ำหน้า โดยด้านหน้ารถมี Parametric Pixel รวมอยู่กับชุดไฟ LED และกันชนหน้าส่วนล่าง นอกจากนี้รถยังมีแนวเส้นหลังคาที่โค้งลื่นไหลเพื่อสร้างรูปทรงที่มีแอโรไดนามิก รวมทั้งยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านต่ำถึง 0.259 Cd เมื่อรถมากับกระจกข้างดิจิตอล ขณะที่ด้านหลังของรถยังคงมาในแนวทาง Pixel-fused
นอกจากนี้รถยังได้รับการออกแบบให้มีการไหลผ่านของอากาศใต้ท้องรถที่ลื่นไหลและสมดุลย์พร้อมกับลดแรงต้านของล้อและยางเพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน รวมท้งยังเป็นรถรุ่นแรกของแบรนด์ที่ไม่มีเสาอากาศบนหลังคา เพราะนำหน้าที่ของเสาอากาศแยกไปอยู่ตามส่วนต่างๆ อย่างจีพีเอสและวิทยุดาวเทียมอยู่ที่กระจกหน้า บริการเชื่อมต่อสำหรับรถอยู่ที่แผงจอแสดงข้อมูล วิทยุ FM/AM และมัลติมีเดียดิจิตอลอยู่ที่กระจกของฝาท้าย เพื่อสร้างทั้งความล้ำหน้าและสไตล์มินิมอลลิสต์ให้กับรถ
ห้องโดยสารของรถมากับเบาะที่ถูกเรียกว่า Relaxation Seat ในเบาะแถวแรกและแถวที่สองของรถ ซึ่งสามารถปรับเอนเบาะได้เต็มที่พร้อมกับมีที่รองขาเพื่อให้ความสบาย รวมทั้งมีระบบ Dynamic Body Care ที่สร้างแรงกดและการสั่นเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดความอ่อนล้าเมื่อเดินทางไกล รวมทั้งมีเบาะแถวที่สอง Swiveling Seat เพื่อให้หมุนเบาะแถวที่สองหันหน้าเข้าหาเบาะแถวที่สามเมื่อจอดรถได้ โดยทางผู้ผลิตรถยต์จากเกาหลีใต้ยังบอกว่ารถเอสยูวีไฟฟ้าเรือธงของตนมีพื้นที่ Headroom ถึง 1,899 มม. และพื้นที่ Legroom ถึง 2,050 มม.
ในห้องโดยสารของรถยังมีจอ Panoramic Curved Display ที่มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่และจอ Infotainment ยาวต่อเนื่องกัน แผงแดชบอร์ดที่ถูกออกแบบในลักษณะลอยตัว ช่องระบบปรับอากาศที่มีความเรียว และไฟ Ambient Lighting เพื่อบรรยากาศทันสมัยในห้องโดยสาร นอกจากนี้ยังใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืนในห้องโดยสาร อย่างหนัง Eco Process Leather ผ้าจากการีไซเคิลขวดพลาสติก
รถมากับแบตเตอรี NCM ลิเธียม-ไอออนความจุ 110.3 kWh ติดตั้งที่พื้น ทำให้รุ่น Long-Range RWD มีระยะเดินทางถึง 620 กิโลเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าของรถที่ถูกติดตั้งด้านหลังมีกำลัง 160 kW หรือ 214 แรงม้า นอกจากนี้รถเอสยูวีไฟฟ้าระดับเรือธงยังมีรุ่น Long-Range AWD ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 70 kW หรือ 93 แรงม้าเพิ่มเข้ามาที่ด้านหน้า รวมทั้งมีรุ่น Performance ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 160 kW หรือ 214 แรงม้าติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ใช้เวลา 5.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.
ส่วนการชาร์จไฟของรถถูกระบุว่าใช้เวลา 10 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์เมื่อชาร์จจากเครื่องชาร์จ 350 kW
รถยังมี Chassis Domain Control Unit เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับด้วยการทำงานอย่าง Torque Vectoring หรือการความคุมเสถียรภาพของรถจากลมด้านข้างเมื่อใช้ความเร็วสูง รวมไปถึงมีระบบ Terrain Traction Control System สำหรับเส้นทางขรุขระ และ Auto Terrain Mode ที่ใช้เอไอเพื่อจดจำพื้นผิวถนนแล้วเลือกโหมดขับที่เหมาะสม
การขายรถจะเริ่มในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ที่เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาก่อน จากนั้นตามด้วยยุโรปและประเทศอื่น