ประเพณีเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันเราไปสู่อนาคต แนวคิดดังกล่าวได้นำ มาเซราติ มาพบกับ Massimo Bottura เชฟยอดฝีมือผู้ซึ่งเกิดและเติบโตที่เมืองโมเดน่า โดยเป็นทั้ง Trident Brand Ambassador และบุคคลสำคัญในวงการอาหารอิตาเลียน
อีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะผู้นำส่วนที่ดีที่สุดของยุคเก่า มาประยุกต์เข้ากับความทันสมัยแห่งอนาคต กับ ‘Levante Trofeo Fuoriserie Edition for Massimo Bottura’ เปิดตัวช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ผลจากความร่วมมือระหว่าง มาเซราติ และเชฟชื่อดัง ทั้งคู่มีถิ่นกำเนิดจากแคว้นเอมิเลียของอิตาลี และมีศักยภาพในการทำงานอย่างเหนือความคาดหมาย รถรุ่นนี้เป็นการค้นหาความคิดสร้างสรรค์ การนำเสนอเสรีภาพแห่งการแสดงออก และทัศนสุนทรีย์แห่งชีวิต แต่งแต้มด้วยสีสันที่สวยงาม
เลอวานเต้ (Levante) เอสยูวีรุ่นแรกของ มาเซราติ เป็นรถที่สามารถรังสรรค์จินตนาการไร้ขอบเขต เสมือนกระดาษที่ว่างเปล่าซึ่งพร้อมที่ระเบิดพลังอย่างเต็มที่ โดยรุ่นท็อป ‘Trofeo’ มาพร้อมเครื่องยนต์ วี8 สูบ 580 แรงม้า ที่หลอมรวมสมรรถนะ, ความเร็ว และความสนุกในการขับไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ขณะที่ตัวถังของ ‘Blu Stradale Fuoriserie Edition’ ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันที่หลากหลาย เช่นเดียวกับแดชบอร์ดและคอนโซลกลางในห้องโดยสาร กำเนิดเป็น มาเซราติ ที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ในทุกมุมมอง
ในจินตนาการของ Massimo Bottura ประสบการณ์ในการขับแบบออฟโรด ซึ่งเป็นเหตุผลที่ เลอวานเต้ ถูกสร้างขึ้น ก็เปรียบเสมือนการงานศิลปะชิ้นหนึ่ง จากการที่เขาเติบโตขึ้นใน Motor Valley ส่งผลให้ Bottura รักการขับรถวินเทจ ผ่านเขตชนบทของแคว้นเอมิเลียพร้อมกับพี่ชาย และเมื่อวันแห่งการผจญภัยสิ้นสุดลง รถก็ถูกปกคลุมไปด้วยคราบโคลน หรือ ‘ริ้วรอยจากการแข่งขัน’ ตามที่เชฟคนดังชอบเรียกจนติดปาก สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในชีวิตของพวกเราก็คือ การที่ทุกคนล้วนเป็นตัวละครหลักแห่งการผจญภัย เราถูกแปลงด้วยประสบการณ์ที่เราพบพาน หล่อหลอมเหตุการณ์ที่เราประสบ ก่อร่างขึ้นด้วยชัยชนะและความพ่ายแพ้ และแต่งแต้มด้วยสีสันแห่งวัฒนธรรม ส่งผลให้ในท้ายที่สุด เราทุกคนจึงมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ภายใต้บุคลิกและตัวตนอันชัดเจน ซึ่งหลังจากนำรถไปลุยแบบออฟโรดอย่างเต็มที่ Bottura มักจะไม่ล้างรถไปอีกหลายวัน เพื่อระลึกถึงบทเรียนอันล้ำค่า
เลอวานเต้ Trofeo สุดพิเศษคันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม ‘Maserati Fuoriserie’ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดการตกแต่งได้ตามชอบ กับทางเลือกอันหลากหลาย เพราะเรามองว่า รถยนต์ก็เปรียบเสมือนเครื่องแต่งกายที่เราสวมใส่บนท้องถนน เพื่อสะท้อนตัวตนของผู้ครอบครอง และเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความหรูหราร่วมสมัย
Maserati Fuoriserie เปรียบเสมือนกระดาษเปล่า และทางแบรนด์ก็ได้เตรียมอุปกรณ์วาดภาพและสีสันไว้มากมายหลากหลายรูปแบบ เพื่อรังสรรค์งานศิลปะตามแรงบันดาลใจ ลูกค้าจึงมีบทบาทเป็นผู้นำเทรนด์ และสามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นพบแนวทางในการผสมผสานที่หลากหลาย มาเซราติ ได้รังสรรค์ 3 คอลเลคชั่นพื้นฐาน
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น ได้แก่ Corse, Unica และ Futura ซึ่งเป็นรถ 3 กลุ่ม ที่สะท้อนถึงพลังและคุณค่าของแบรนด์ ผสานความคล่องแคล่วสไตล์สปอร์ต เข้ากับความสง่างาม และความทันสมัย โดยเลือกตกแต่งได้ทั้งรุ่น กิบลี่, เลอวานเต้ และควอตโตรปอร์เต้ กับสีตัวถังและลวดลายการตกแต่งแบบใหม่, ล้อและคาลิเปอร์เบรก รวมถึงรายละเอียดในห้องโดยสาร เช่น สีของด้ายเย็บตะเข็บและอื่นๆ ขณะที่ซูเปอร์คาร์ ‘MC20’ ก็สามารถแต่งเพิ่มได้เช่นกัน โดยคอลเลคชั่น ‘Fuoriserie’ จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นกับการแตกแต่งระดับ ‘Sartoria’ สำหรับลูกค้าที่เจาะจงรายละเอียดการตกแต่งในแบบเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น
Levante Trofeo Fuoriserie Edition for Massimo Bottura เปิดตัวที่ Motor Valley Fest 2021 ในเมืองโมเดน่า นำเสนอคอนเซ็ปต์แห่งความคิดสร้างสรรค์ กับโปรเจ็กต์คัสตอมรถตามความต้องการ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Maserati Fuoriserie และ Massimo Bottura นับเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่เปิดกว้างสำหรับประสบการณ์ ความงดงาม และความต้องการค้นหาตัวตนที่แท้จริง ผ่านประสบการณ์ที่พบเจอตลอดการเดินทางของชีวิต