Mercedes-Benz เพิ่มทางเลือกใน E-Class ด้วยการทำ E-Class All-Terrain ออกมา โดยเป็นรถครอสโอเวอร์ที่ใช้พื้นฐานจาก E-Class Estate หรือตัวถังแวกอน เพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์มากขึ้นด้วยการลุยไปบนเส้นทางทุรกันดารได้
จุดเด่นของ Mercedes-Benz E-Class All-Terrain คือการมีความสูงของใต้ท้องรถเพิ่มขึ้น 46 มม. เมื่อเทียบกับตัวถังแวกอนปกติส่งผลให้รถมีความสูง 1,497 มม. ในขณะที่ความยาวของรถไม่แตกต่างกันที่ 4,950 มม. ส่วนความกว้างของรถคือ 1,904 มม. พร้อมยังคงความอเนกประสงค์ด้วยการมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 615-1,830 ลิตร และการแยกพับเบาะหลังได้ 40:20:40
ไม่เพียงมีความสูงเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่รถยังมากับดีไซน์ในสไตล์รถเอสยูวี โดยที่ด้านหน้ามีกระจังหน้า Twin-louvre สีเงิน Iridium Silver พร้อมมีลายดาวในกระจังหน้าและโลโก้ดาวสามแฉกตรงกลาง และมีการ์ดกันกระแทกโครเมียมมันวาวด้านล่างกันชนหน้า ส่วนด้านข้างของรถมีซุ้มล้อสีเทาเข้มบ่งบอกลักษณะของรถสไตล์ลุย รวมทั้งมีคิ้วกันกระแทกที่ประตูสีเดียวกันซึ่งแทรกด้วยโครเมียมมันวาว ส่วนด้านหลังมากับกันชนหลังเฉพาะรุ่นพร้อมการ์ดโครเมียม ขณะที่ขอบฝาท้ายของรถมีคิ้วกันกระแทกสเตนเลสสตีลให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง
ขุมพลังของรถมีให้เลือกทั้งดีเซล เบนซิน และปลั๊กอินไฮบริด โดยเริ่มจาก E 220 d 4Matic เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 197 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร E 450 4Matic เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 381 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ซึ่งทั้ง 2 เครื่องยนต์นี้มาพร้อมกับระบบไมลด์ไฮบริดช่วยเพิ่มกำลัง 23 แรงม้า และเพิ่มแรงบิด 205 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดคือ E 300 de 4Matic ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 197 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 129 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ให้กำลังขับเคลื่อนรวม 230 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร และมีแบตเตอรี 25.4 kWh ช่วยให้เดินทางโดยไม่ใช้น้ำมันได้ถึง 102 กิโลเมตร
รถแวกอนยกสูงมาพร้อมกับช่วงล่างถุงลม AIRMATIC เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นการรวมเอาช่วงล่างแบบถุงลมเข้ากับแดมเปอร์แอคทีฟ ADS+ ซึ่งมีการปรับยืดและยุบตัวแปรผันอิสระในแต่ละล้อของรถที่ให้การตอบสนองสูงสุด รวมทั้งมีการใช้เซ็นเซอร์และอัลกอริธึมเพื่อการปรับช็อกแอบซอร์เบอร์ตามพื้นผิวของถนน เพื่อให้การกระแทกจากล้อของรถไม่ส่งผลต่อเพลาทั้งหมดและห้องโดยสาร
นอกจากนี้หากขับรถในโหมด Comfort รถจะลดควาสูงลง 15 มม. เมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม.
ทางค่ายดาวสามแฉกระบุว่าการส่งรถไปตามดีลเลอร์จะมีในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ส่วนราคารถยังไม่เปิดเผยออกมา