Mercedes-Benz E-Class Estate ความอเนกประสงค์ในแบบแวกอนพร้อมความหรูและไฮเทค

เพียงสามเดือนหลังจากที่ค่ายดาวสามแฉกเปิดตัว E-Class ซีดานใหม่เจเนเรชันที่ 6 ออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Mercedes-Benz E-Class Estate รถแวกอนหรูที่มาพร้อมกับความอเนกประสงค์มากขึ้นและมีความไฮเทคไม่ต่างกับตัวถังซีดานก็ถูกเปิดตัวตามออกมา

Mercedes-Benz E-Class Estate มาในดีไซน์ด้านหน้าของรถในส่วนของกระจังหน้าและไฟหน้า รวมทั้งไฟท้ายที่ด้านหลังไม่ต่างกับตัวถังซีดาน แต่ด้วยหลังคารถที่ยาวขึ้นจนคลุมเหนือพื้นที่เก็บของด้านหลังทำให้รถมีพื้นที่เก็บของความจุ 460 หรือ 615 ลิตรขึ้นอยู่กับระบบขับเคลื่อนของรถเมื่อเบาะหลังอยู่ในตำแหน่งปกติ และสามารถเพิ่มความจุในการเก็บสิ่งของได้ถึง 1,785 หรือ 1,830 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง

Mercedes-Benz E-Class Estate 6th Generation

ด้านของของรถแวกอนรุ่นใหม่มีความยาว 4,949 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,469 มม. ในขณะที่ฐานล้อของรถมีความยาว 2.961 มม. ซึ่งหมายความว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ารถรุ่นใหม่มีระยะฐานล้อยาวขึ้น 22 มม. ส่งผลให้มีพื้นที่ช่วงขาที่เบาะหลังของรถเพิ่มขึ้น รวมไปถึงยังมีพื้นที่ช่วงศอกเพิ่มขึ้นจากความกว้างของรถที่เพิ่มขึ้น 28 มม. ด้วย

Mercedes-Benz E-Class Estate

ห้องโดยสารของรถแวกอนไม่ต่างกับตัวถังซีดานที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้าที่มีจอ MBUX Superscreen เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทำให้นอกจากจอแสดงข้อมูลผู้ขับและจอระบบ Infotainment ตรงกลางแล้วสามารถเพิ่มจอด้านหน้าผู้โดยสารที่เบาะหน้าได้สำหรับการดูทีวีหรือวิดีโอในขณะเดินทาง รวมทั้งในรถยังมีทั้งกล้องเซลฟี แอปป์ Zoom และ Webex เพื่อการประชุมผ่านวิดีโอ พร้อมกับแอปป์ยอดนิยมอย่าง TikTok และเกม Angry Birds ให้เล่น นอกจากนี้ยังสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารด้วยระบบ Sound Visualisation ที่จะถ่ายทอดเสียงดนตรีและเอฟเฟต์จากภาพยนตร์มาเป็นแสงไฟใน Active Ambient Lighting แถมยังให้ความสะดวกในชีวิตด้วยระบบจอดรถอัตโนมัติซึ่งสามารถควบคุมจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนได้

MBUX Superscreen

หัวใจการขับเคลื่อนของรถมี 3 ทางเลือก เริ่มจากปลั๊กอินไฮบริดในรุ่น E300 e ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 204 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ 129 แรงม้า มีกำลังรวม 312 แรงม้า สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 100 กิโลเมตรจากแบตเตอรี 25,4 kWh

ส่วนอีก 2 ทางเลือกเป็นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตรพร้อมระบบไมล์ดไฮบริดที่ช่วยเพิ่มกำลัง 23 แรงม้า โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิร E200 มีกำลัง 204 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล E200d มีกำลัง 197 แรงม้า ซึ่งทุกเครื่องยนต์ใช้เกียร์ 9G Tronic ส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อหลังของรถ และมีช่วงล่าง Air Suspension หลังเป็นอุปกรร์มาตรฐานมาพร้อมกับรถ

รถแวกอนหรูรุ่นใหม่จากค่ายดาวสามแฉกจะขายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ส่วนราคารถยังไม่มีรายละเอียดออกมา

Tagged:

admin24

admin24

RELATED ARTICLES