บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เสริมความแข็งแกร่งไลน์อัปยนตรกรรมเอสยูวี เปิดตัว “ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่” เจเนอเรชันที่ 2 รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่พร้อมตอบสนองความต้องการที่หลากหลายด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมผสานความแกร่งและความอเนกประสงค์ สไตล์เอสยูวีไว้อย่างลงตัวในทุกมิติ
ขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและเหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกันด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า และระบบเกียร์ CVT สู่อีกขั้นแห่งการเดินทางด้วยสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับในทุกด้าน ทั้งสมดุลในการขับขี่ ระบบช่วงล่างและการควบคุมมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถว 3 สามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย* อาทิมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) โดยราคาประมาณการรุ่น E ไม่เกิน 930,000 บาท และรุ่น EL ไม่เกิน 980,000 บาท พร้อมเปิดให้ลูกค้าจองสิทธิ์ผ่านที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 – 18 สิงหาคม 2565** พร้อมรับฟรีชุดโต๊ะพับแคมป์ปิ้ง มูลค่า 4,200 บาท โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และจัดแสดงเป็นครั้งแรกที่งาน Big Motor Sale 2022 ตั้งแต่วันที่ 19 – 28 สิงหาคม 2565 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ จะเป็นหนึ่งในทางเลือกของรถเอสยูวีที่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป**
นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า บีอาร์-วี เปิดตัวสู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2558 โดยได้เข้ามาเติมเต็มไลน์อัปรถเอสยูวีของฮอนด้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการของตลาด และตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ครั้งนี้ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ พร้อมนำเสนอคุณค่าใหม่ให้แก่ลูกค้า ด้วยการเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่ลงตัวด้วยการผสานจุดเด่นทั้งดีไซน์สปอร์ตแข็งแกร่งสไตล์เอสยูวี ความอเนกประสงค์คล่องตัวแบบรถเอ็มพีวี สมรรถนะการขับขี่ที่มั่นใจได้ อีกทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย โดย ฮอนด้า บีอาร์-วี จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นตลาดในกลุ่มรถเอสยูวี อีกทั้งจะเป็นยนตรกรรมที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ และพร้อมสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขในทุกการเดินทางให้แก่ทุกคนได้อย่างแน่นอน”
ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่… Where We Belong ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่สำหรับทุกคนในทุกเส้นทางมาพร้อมคุณค่าที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ได้แก่ ความลงตัวของดีไซน์ สู่ลุคสปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่ง ลงตัวในทุกมิติ
- ดีไซน์ภายนอก
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สะท้อนความโดดเด่นยิ่งขึ้นในรุ่น EL ที่มาพร้อมสี Piano Black
- กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน (รุ่น EL)
- ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น EL)
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น EL)
- คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน (รุ่น EL)
- ราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น EL) และขนาด 16 นิ้ว (รุ่น E)
- ภายในห้องโดยสาร
- ห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานและสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง
- โดดเด่นด้วยคอนโซลดีไซน์ใหม่ ยกระดับความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งแบบ Piano Black เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งการออกแบบช่องเก็บของอย่างเหมาะสม รวมทั้งที่วาง
แก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง พร้อมพนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้โดยสารทุกคน - มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยห้องเก็บสัมภาระท้ายมากขึ้นกว่าเจเนอเรชันก่อน พร้อมเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้หลากหลายรูปแบบ
- เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบ
จังหวะเดียว (One Motion) โดยสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ - เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้
2 ระดับ
- เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบ
สู่ประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่ด้วยสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังและนุ่มนวล ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยแรงขับที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน
- เครื่องยนต์ขนาด 5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที
- ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลัง มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
ตอบโจทย์การใช้งาน ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และความบันเทิงที่เชื่อมต่อผู้ใช้งานกับรถให้เป็นหนึ่งเดียว
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 2 นิ้ว
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น EL)
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
- ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทาง ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงาน
หลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ* อาทิ
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed)
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- กล้องส่องภาพด้านหลัง
- ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น EL ราคาประมาณการไม่เกิน 980,000 บาท***
- รุ่น E ราคาประมาณการไม่เกิน 930,000 บาท***
โดยมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เฉพาะรุ่น EL) สีดำคริสตัล (มุก) (รุ่น EL และรุ่น E) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น E) โดยรุ่น EL สีภายในจะเป็นสีดำ และรุ่น E สีภายในจะเป็น
สีทูโทน (ดำ/มอคค่าเกรย์)
พิเศษ ลูกค้าที่จองสิทธิ์ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 น. ถึงวันที่
18 สิงหาคม 2565** เวลา 22.00 น. รับฟรีชุดโต๊ะพับแคมป์ปิ้ง มูลค่า 4,200 บาท** โดยจะได้รับสิทธิ์เมื่อจองและ
รับรถภายในระยะเวลาที่บริษัทฯ กำหนด** สามารถจองสิทธิ์ผ่านที่ปรึกษาการขายฮอนด้าหรือที่โชว์รูมฮอนด้า
ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป**
เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ ในวันที่
19 สิงหาคม 2565 นี้ พร้อมทั้งเตรียมสัมผัสเป็นครั้งแรกในงาน BIG Motor Sale 2022 ระหว่างวันที่ 19 – 28 สิงหาคม 2565 นี้