นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายศุภชัย สินสุวรรณรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการขับเคลื่อน ที่พร้อมเชื่อมต่อทุกประสบการณ์แบบครบวงจรในยุคดิจิทัล ครอบคลุมตลอดการใช้รถของโตโยต้า พร้อมแนะนำบริการใหม่ Connect You บริการแจ้งสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเฉพาะบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน T-CONNECT และเปิดตัว Service Loyalty Program อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ “TCFR Plus+” ตอบแทนลูกค้าคนสำคัญที่เข้ารับบริการเช็กระยะกับศูนย์บริการโตโยต้าอย่างต่อเนื่อง รับสิทธิขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆที่ครอบคลุมตลอดการใช้ ภายในงานแถลงข่าว “CONNECT EVERYWHERE, TAKE CARE EVERY FEEL: เชื่อมต่อการขับขี่ ขับเคลื่อนความห่วงใย” เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ณ Toyota ALIVE บางนา
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้าสู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อน Mobility Company ผ่านการดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร ซึ่งนอกจากการผลิตยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่าหรือ Ever-Better Cars เพื่อสร้างรถที่มีคุณภาพ ทนทาน เชื่อถือได้ โตโยต้ายังมีความพร้อมทางด้านชิ้นส่วนอะไหล่ในการบำรุงรักษาและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อให้ผู้ใช้รถเกิดความอุ่นใจ Peace of mind หรือความสบายใจสูงสุดตลอดการใช้รถของโตโยต้า
ปัจจุบัน จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเปลี่ยนไป โตโยต้ามิได้หยุดในการที่จะพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความสะดวก และความสบายใจให้กับลูกค้าในการใช้บริการ อาทิ การเริ่มใช้อุปกรณ์เทเลเมติกส์ (Telematics) เข้ามาดูแลลูกค้า และใน ปี พ.ศ. 2563 ได้แนะนำแอปพลิเคชัน T-Connect เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างโตโยต้ากับลูกค้าผ่านบริการที่หลากหลาย ที่สำคัญ โตโยต้าได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องในบริการหลังการขาย ให้มีมาตรฐานและคุณภาพ พร้อมสร้างความมั่นใจในการใช้รถโตโยต้าของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลลูกค้าของโตโยต้าว่า “โตโยต้าไม่เคยหยุดเรื่องของการดูแลลูกค้า โดยช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นเพื่อดูแลลูกค้ามากมาย ทั้ง G-Book, Toyota Privilege, T-Mex, Find my car ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามา แต่ละบริษัทต่างปรับตัว สร้างแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันมากมาย ซึ่งในยุคนั้นลูกค้าก็ปรับตัวกับเทคโนโลยีที่เข้ามา จากนั้น ก็มีเทรนด์ความนิยมของ Super app หรือ One app ซึ่งโตโยต้าก็มีแอปพลิเคชัน T-Connect ที่รวมทุกบริการเข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของเราได้สะดวกผ่านแอปฯ เดียว ในขณะที่บางส่วนงานยังคงจำเป็นต้องการติตด่อลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ เช่น การนัดหมายเข้าศูนย์บริการ
และเพื่อเพิ่มความสะดวกด้านงานบริการ ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันของผู้ใช้งาน รวมทั้ง การเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีต่างๆ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้า โตโยต้าจึงได้แนะนำบริการรูปแบบใหม่ ที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาร่วมเชื่อมต่อประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้า ได้แก่ เทคโนโลยี Connected
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเราปกป้องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไว้อย่างดีที่สุด เรามุ่งสนับสนุนลูกค้า ทั้งเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถ การดูแลบำรุงรักษา รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญ โตโยต้ายังคงมุ่งพัฒนาบริการต่างๆ ให้ดีขึ้น เพื่อตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้ทัน รวมถึงตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปด้วย”
สู่อีกระดับของการบริการลูกค้ายุคดิจิทัล
T-CONNECT – แอปพลิเคชันที่จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ง่ายในการเป็นเจ้าของ ปลอดภัย คุ้มค่า สะดวกสบาย และมีสิทธิประโยชน์มากมาย
นายศุภชัย สินสุวรรณรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวแนะนำแอปพลิเคชัน T-Connect ที่ปัจจุบันมีการพัฒนาเพื่อความสะดวก และคุ้มค่าให้กับลูกค้า ในด้านต่างๆ “T-Connect ในปัจจุบัน คือแอปพลิเคชัน ที่โตโยต้า ได้สร้าง และพัฒนามาภายใต้วัตถุประสงค์ เพื่อให้ลูกค้า สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของโตโยต้าได้ง่าย ผ่านแอปพลิเคชันนี้ เพียงแค่ลูกค้าดาวน์โหลดแอปฯ และลงทะเบียนข้อมูลรถ ก็สามารถใช้บริการได้ทันที โดยเราออกแบบบริการออกเป็น 5 หมวด มีฟังก์ชันและบริการมากกว่า 20 บริการ เพื่อดูแลลูกค้าตั้งแต่ ขั้นตอนการซื้อรถ การใช้รถ การอำนวยความสะดวกในการเข้าศูนย์บริการ รวมถึงนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ได้แก่
- บริการสินเชื่อ Connected Auto Loan หรือ CALเป็นทางเลือกในการผ่อนผัน ลดเงื่อนไข เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถเพิ่มเงินดาวน์ เพิ่มคนค้ำ หรือต้องเพิ่มดอกเบี้ย แต่ติดเงื่อนไขของการพิจารณาอนุมัติเงินรายได้ (หมายเหตุ เป็นบริการที่ใช้เทคโนโลยี Connected เข้ามาช่วยในการอนุมัติสินเชื่อ)
โดยร่วมมือกับ Toyota Leasing มาตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้สินเชื่อ Connected Auto Loan กว่า 70,000 ราย คิดเป็น 5% จากยอดขายรถใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารถกระบะที่ต้องการรถไปใช้งาน เราสามารถช่วยได้ 8% ของยอดขายรถกระบะ
- ประกันภัยขับดี ลดให้ หรือ Pay How You Drive วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของลูกค้าเพื่อคำนวณเป็นคะแนน เพื่อได้รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 40% สำหรับการต่ออายุประกันภัยในปีถัดไป(ส่วนลดประวัติดี 20% และเพิ่มส่วนลดจากพฤติกรรมการขับขี่ 25%)ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 360,000 กรมธรรม์ โดยมีลูกค้ามากกว่า 200,000 กรมธรรม์ที่ต่อประกัน PHYD และมีสัดส่วนมากถึง 41% ที่ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันสูงสุด 40%
ปัจจุบันเราร่วมมือกับ 6 บริษัท ได้แก่ ไอโออิ, วิริยะประกันภัย, กรุงเทพประกันภัย, โตเกียวมารีนเซฟตี้, นวกิจประกันภัย, ไทยวิวัฒน์ และมิตซูสุมิโตโม
- บริการช่วยเหลือด้านความปลอดภัยทั้งระบบFind My Car ที่สามารถระบุพิกัดรถได้ บริการติดตามรถหาย TheftTrack ที่ช่วยในการประสานงานกับตำรวจ ที่เราช่วยลูกค้าตามหารถกว่า 1,000 เคส ฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อมีคนนำรถออกนอกเขตที่กำหนดไว้ หรือ Geo-fencing รวมถึงบริการ SOS ที่มีเจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง มีลูกค้าโทรหาเรากว่า 7,600 สาย/ปี เราดูแลเคสได้ 100% เช่น กรณีเกิดอุบัติเหตุ ต้องเรียกรถพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย รถยก หรือเรียกประกันภัย
- บริการอำนวยความสะดวกในการเข้าศูนย์บริการ – เสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในการแจ้งเตือน
เข้าเช็กระยะ ต่อประกัน ต่อ พรบ. ติดตามสถานะการซ่อมผ่านแอปพลิเคชันได้
- สิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ผ่านความร่วมมือกับ The1 เรียกว่าโปรแกรม Toyota ALIVE-Xลูกค้าสามารถนำคะแนน The 1 ที่สะสมไว้มาแลกเป็นส่วนลดที่ศูนย์บริการโตโยต้า และทุกยอดค่าใช้จ่ายที่ศูนย์บริการโตโยต้า สามารถสะสมเป็นคะแนน The1 และนำไปเป็นส่วนลดที่ Central และสำหรับจังหวัดที่ไม่มีเซ็นทรัลสามารถนำคะแนนไปใช้ได้ที่ร้านในเครือของเซ็นทรัลกว่า 30,000 ร้านทั่วประเทศ”
นายศุภชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “นับตั้งแต่การแนะนำแอปพลิเคชัน T-Connect ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 จนถึงปัจจุบัน เรามีสมาชิกกว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อโตโยต้า ทั้งนี้ โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นในการปรับปรุงเพื่อนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มากขึ้นต่อไปผ่านหลักการ 3R นั่นคือ Right time , Right Customer และ Right Content
แนะนำบริการใหม่ – T-CONNECT
- Connect Car : บริการแจ้งเตือนด้านรถ เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวลในทุกสถานการณ์โดยใช้เทคโนโลยี Connected เชื่อมต่อกับข้อมูลการใช้รถของลูกค้า ทำให้เราสามารถดูแล ครอบคลุมทุกเรื่องรถในทุกๆ ด้าน
ด้านความปลอดภัย
- แจ้งเตือนตำแหน่งรถ ขณะดับเครื่องยนต์ (Engine off tracking)
- แจ้งเตือนเมื่อตำแหน่งรถ ไม่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ (Geo-Fencing)
- แจ้งเตือนเมื่อรถถูกสตาร์ท พร้อมบริการช่วยจำที่จอดรถ (PARKING MODE)
ด้านการดูแลรักษา
- แจ้งเตือนการเข้าเช็กระยะ (Maintenance reminder)
- แจ้งเตือนการต่อประกันภัยรถยนต์ (Insurance reminder)
- Connect You : บริการแจ้งสิทธิพิเศษต่างๆ ที่คัดสรรมาสำหรับลูกค้าโตโยต้าโดยเฉพาะ
บริการแจ้งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ทั้งด้านสาระความรู้และเทคนิคการใช้รถอย่างง่าย tips & technic, รวมถึงสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ลูกค้าจะได้รับจาก T-Connect แอปพลิเคชัน ที่โตโยต้าคัดสรรมาให้ลูกค้าเฉพาะบุคคล เพียงใส่ข้อมูลรถยนต์ และเชื่อมบัญชี Alive-X (The 1 point) โดยประกอบด้วย
- เฉพาะคุณ (Special for you)สิทธิพิเศษรายบุคคลสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะ เช่น รับ e-voucher ในเดือนเกิด
- กิจกรรมและข่าว (News & Activity)สิทธิพิเศษจากการร่วมสนุกในกิจกรรมวันพิเศษตามปีปฏิทิน เช่น วันเด็ก วันแม่ และแคมเปญต่างๆ เพื่อรับคะแนนสะสม และบัตรกำนัลร้านอาหาร
- บทความ (Content)สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการใช้รถของลูกค้า (Tips & Tech)
สู่อีกระดับของบริการหลังการขาย
กับ Service Loyalty Program “TCFR Plus+” ใหม่
สร้างความมั่นใจตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของรถโตโยต้า
นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตอกย้ำ การดูแลลูกค้าหลังการขายผ่านการบริการลูกค้าว่า “ปัจจุบัน โตโยต้า มีศูนย์บริการหลังการจำหน่าย กว่า 450 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาโตโยต้า มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้แนวคิด ความสุขของลูกค้า คือความสุขของพวกเรา ดังนั้นเราจึงมอบการบริการที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของลูกค้าในทุกระดับผ่านเครือข่ายศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ ซึ่งช่างผู้ชำนาญการของเรา ได้รับมาตรฐานการรับรองเหมือนกันในทุกแห่ง ทำให้เราสามารถตรวจเช็กระยะ หรือซ่อมทั่วไป ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ลูกค้ามั่นใจในการนำรถกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจและสบายใจ และยังทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพงานของเราได้ ผ่านการรับประกันคุณภาพงานซ่อม 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ศูนย์บริการของเรายังมีการให้บริการแบบครบวงจร ทั้งศูนย์ซ่อมทั่วไปการซ่อมบำรุง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ยาง และศูนย์ซ่อมตัวถังและสี โดยเฉพาะยิ่งการบำรุงรักษาเช็กระยะ ที่ทางโตโยต้าให้ความสำคัญ ใส่ใจในการดูแลลูกค้าทุกท่านโดยตรวจสอบตามมาตรฐานของแต่ละรุ่นรถยนต์ เพราะการเช็กระยะก็เปรียบเสมือนกับการที่รถยนต์ได้รับการตรวจสุขภาพ การตรวจที่ดีย่อมส่งให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถยนต์ปลอดภัย ไร้กังวล ทั้งนี้โตโยต้ายังตอบแทนลูกค้าคนสำคัญ กับสิทธิประโยชน์สุดคุ้มค่าที่ช่วยให้คุณมั่นใจในการใช้รถ และลดค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน จากโปรแกรมใหม่ล่าสุด “TCFR Plus+”
ใหม่ ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ กับ TCFR Plus+
“เข้าศูนย์ตามนัด พลัสระดับความคุ้ม” มอบสิทธิประโยชน์ตามระดับการเข้าเช็กระยะต่อเนื่องกับศูนย์บริการโตโยต้า (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)
นายรุ่งโรจน์ กล่าวแนะนำการพัฒนายกระดับโปรแกรม TCFR ขึ้นใหม่ “เรียกว่า TCFR Plus+ ซี่งเป็น (Service Loyalty Program) อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนลูกค้าคนสำคัญ ที่เข้าเช็กระยะกับศูนย์บริการมาอย่างต่อเนื่อง ขยายโปรแกรมให้ครอบคลุมลูกค้าโตโยต้าทุกคน ทั้งลูกค้ารถยนต์เก่าและรถยนต์ใหม่ รวมถึงเพิ่มสิทธิประโยชน์อีกมากมายตลอดอายุการใช้งาน ตั้งแต่ส่งมอบรถยนต์ใหม่ จนถึงการเปลี่ยนรถยนต์ใหม่คันถัดไป”
ให้ทุกการบริการกับศูนย์บริการโตโยต้ามีความหมาย โดยสะสมระดับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นตามการเข้าเช็กระยะอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นที่ระดับบรอนซ์, ปรับเป็นระดับซิลเวอร์ (Silver) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 5 ครั้ง, ระดับโกลด์ (Gold) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 7 ครั้ง, และระดับไดมอนด์ (Diamond) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 9 ครั้ง รับสิทธิประโยชน์ที่ทำให้มั่นใจไร้กังวล และช่วยลดค่าใช้จ่าย
- ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. สำหรับ 14 ระบบรถยนต์มาตรฐาน
และ 8 ปี หรือ 225,000 กม. สำหรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง - การสะสมคะแนน Alive-X The 1 ตามระดับของลูกค้าสูงสุด 5 เท่า เมื่อมีค่าใช้จ่ายงานซ่อมทั่วไป
ที่ศูนย์บริการโตโยต้า
- ส่วนลดในการเข้ารับบริการเช็กระยะและอะไหล่สิ้นเปลือง สูงสุด 15%
- สิทธิพิเศษในการซื้อรถใหม่คันถัดไปพร้อม อำนวยความสะดวกการขายต่อ
อำนวยความสะดวกลูกค้า ให้เห็นระดับรถยนต์ของตัวเองได้ทันที เพียงเข้าร่วมโปรแกรมผ่านแอปพลิเคชัน
T-Connect พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้การบำรุงรักษารถยนต์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
- แจ้งเตือนรอบการเช็กระยะ
- แจ้งเตือนการปรับขึ้นระดับ
- ตรวจสอบระดับและสิทธิประโยชน์ พร้อมประวัติเช็กระยะ
สู่บริการทางเลือกอะไหล่คุณภาพ
และรถใช้แล้วคุณภาพดี TOYOTA SURE
นายศุภกรกล่าวถึงความตั้งใจในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของโตโยต้าทุกคนว่า “เพื่อให้ครอบคลุมด้านงานบริการอย่างครบวงจร และให้ลูกค้าเกิดความสบายใจตลอดการใช้รถ โตโยต้ายังมีบริการทางเลือกสำหรับรถยนต์ที่หมดระยะการรับประกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประกันภัย บำรุงรักษา รวมถึงการดูแล ตลอดจนราคาขายต่อของรถที่ยังคงสมเหตุสมผล ผ่านบริการเด่นๆ ได้แก่”
1) อะไหล่และศูนย์บริการทางเลือก
- ฟิกซ์ฟิต ศูนย์บริการทางเลือกที่ได้มาตรฐาน สะดวกไม่ต้องนัดหมาย ใกล้บ้าน และให้บริการรถทุกยี่ห้อ เหมาะสำหรับลูกค้านอกระยะรับประกัน ที่ต้องการความสะดวก คุ้มค่าด้านราคา และคุณภาพที่เชื่อถือได้
- อะไหล่ทางเลือก T-OPT อะไหล่คุณภาพระดับ OEM ที่ได้มาตรฐาน พร้อมรับประกันที่คุ้มค่า มีจำหน่ายที่ศูนย์บริการโตโยต้า และศูนย์บริการฟิกซ์ฟิตทั่วประเทศ
2) Toyota Sure
มีบริการ รับซื้อ แลกเปลี่ยนรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ และยังมีรถใช้แล้วคุณภาพดี Sure Certified by TOYOTA ที่มาพร้อมกับราคาที่เข้าถึงได้ ที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้าที่กำลังมองหารถอยู่
- จุดเด่นของรถSure Certified by TOYOTA
– รับประกันสูงสุด 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
– เข้ารับบริการได้ที่ศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศกว่า 450 แห่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
– รับส่วนลดค่าอะไหล่เช็กระยะ หรืออะไหล่กลุ่ม Eco Pack 25% พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
ตลอด 24 ชม.
ลูกค้าที่สนใจรถ Sure Certified by TOYOTA สามารถดูข้อมูลผ่าน T-Connect หรือ www.toyotasure.com หรือที่โชว์รูมโตโยต้า ชัวร์ กว่า 103 สาขาทั่วประเทศ
ในโอกาสฉลองเปิดตัวบริการใหม่จาก T-Connect “Connect Car & Connect You” ลูกค้าสามารถร่วมสนุกและรับของที่ระลึก ผ่านแอป T-Connect และสำหรับลูกค้าที่นำรถเข้าศูนย์บริการ รับของที่ระลึกจาก TCFR Plus+
พิเศษรับของที่ระลึก เพียงเยี่ยมชมบูธ T-CONNECT ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี