ในขณะที่ Toyota เปิดตัว Corolla Cross ขายในไทยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ที่สหรัฐอเมริกาเพิ่งมีโอกาสได้สัมผัสรถเอสยูวีรุ่นนี้ ที่เพิ่งเริ่มการทำตลาดกับทางเลือกเดียวของเครื่องยนต์ แต่มี 3 เกรดแต่งให้เลือก
สิ่งที่อยู่ใต้ฝากระโปรงของ Toyota Corolla Cross ในสหรัฐอเมริกาแตกต่างกับในไทย เพราะขณะที่ในบ้านเรามีทั้งครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรและไฮบริดให้เลือก แต่คนอเมริกันจะมีทางเลือกเดียวคือ Dynamic Force Engine 2.0 ลิตร 169 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 203 นิวตันเมตร โดยใช้เกียร์ CVT ส่งกำลังสู่ล้อหน้า แต่ก็มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นออฟชั่นให้เลือกโดยจ่ายเพิ่มอีก 1.300 ดอลล่าร์
แม้จะมีเครื่องยนต์เดียวแต่ Corolla Cross มี 3 เกรดให้เลือก โดยเกรดพื้นฐานคือ L ซึ่งถูกระบุว่ามีความคุ้มค่าและเต็มไปด้วยการทำงานที่ปกติแล้วไม่มีในรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก โดยอุปกรณ์มาตรฐานภายนอกที่มาพร้อมกับรถมีชุดไฟ LED ล้อโลหะขนาด 17 นิ้วพร้อมฝาครอบ ส่วนในห้องโดยสารมีเบาะผ้า จอระบบ Infotainment ขนาด 7 นิ้วพร้อม Android Auto, Apple CarPlay และ Amazon Alexa และจอแสดงข้อมูลผู้ขับมีขนาด 4.2 นิ้ว นอกจากนี้ยังแบ่งพับเบาะหลังได้
ส่วนระบบความปลอดภัยมาทั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมพวงมาลัย ระบบตรวจจับคนเดินถนนและตนขี่จักรยานก่อนการชนด้านหน้า รวมไปถึงมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัตพร้อมกับลดความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ระบบแสดงสัญญาณจราจร และระบบช่วยให้รถอยู่กลางเลนซึ่งปกติแล้วจะไม่มีในรถเกรดพื้นฐาน
ขณะที่ LE ซึ่งเป็นเกรดกลางจะมีการเพิ่มล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ราวหลังคา กระจกมองข้างสปอร์ตสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยวเข้ามาที่ภายนอก ขณะที่ในห้องโดยสารมีจอระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ รวมทั้งระบบ Passive Entry ล็อกและปลดล็อกรถโดยไม่ต้องกดรีโมต และปุ่มพุชสตาร์ต
นอกจากนี้ยังหุ้มหนังที่พวงมาลัย และมีแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ส่วระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามามีระบบตรวจจับมุมบอด และเตือนเมื่อมีรถผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด
ส่วนเกรดสูงสุด XLE จะเพิ่มไฟ Daytime Running Light ไฟตัดหมอก LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และเพิ่มการแต่งด้วยโครเมียม รวมไปถึงมีป้ายระบุรุ่นที่เสาหลังของรถ ส่วนภายในมีเบาะหุ้ม SofTex สีดำหรือสี Macadamia/Mocha พร้อมระบบปรับความอุ่น และเบาะผู้ขับปรับได้ 10 ทิศทาง ส่วนจอแสดงข้อมูลผู้ขับถูกเพิ่มขนาดเป็น 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศเป็นแบบดูอัลโซน และหุ้มหนังที่หัวเกียร์ รวมไปถึงมีแผ่นปิดพื้นที่เก็บของด้านหลัง และมีช่องวางแก้วน้ำที่ที่ท้าวแขน
ด้านระบบความปลอดภัยมีการเพิ่มระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านด้านหลังขณะถอยจากช่องจอด และระบบช่วยเบรกทั้งหน้าและหลังขณะจอดรถเข้ามา โดยราคาของเกรด XLE อยู่ที่ 26,325 ดอลล่าร์หรือประมาณ 860,000 บาทสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะที่เกรดเริ่มต้น L ขับเคลื่อนล้อหน้าอยู่ที่ 22,195 ดอลล่าร์หรือประมาณ 725,000 บาท
