Toyota Corolla ไมเนอร์เชนจ์ที่ยุโรปมาพร้อมระบบไฮบริดใหม่

Toyota Corolla ที่ขายในยุโรปทั้งตัวถังซีดาน แฮทช์แบ็กและแวกอนได้รับการปรับโฉมใหม่เพิ่มความสดให้กับรูปลักษณ์และภายในห้องโดยสารมากขึ้น รวมไปถึงยังมีการใช้ระบบไฮบริดใหม่ที่ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนมากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับภายนอกของ Toyota Corolla หลังการปรับโฉมมีในส่วนของกระจังหน้าที่เปลี่ยนใช้ Mesh ลายใหม่ รวมทั้งเปลี่ยนกรอบไฟตัดหมอกและมีล้ออัลลอยลายใหม่ โดยที่หากเป็นตัวถังแฮทช์แบ็กและแวกอนเกรดสูงจะมีไฟหน้า bi-LED ใหม่พร้อมกับระบบ Adaptive Hight-beam เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Toyota Corolla Facelift in Europe

Corolla รุ่นปรับโฉมยังเพิ่มสีใหม่ที่ถูกระบุว่าได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์ และแฟชันในช่วงเวลานี้อย่างสีเทา Metallic Grey ที่มีเกล็ดสีเงินเข้มในเนื้อสี หรือสีฟ้า Juniper Blue สำหรับตัวถังแฮทช์แบ็กและแวกอนที่เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นโทนสีที่ต่างออกไป

ส่วนภายในห้องโดยสารถูกเพิ่มความทันสมัยและพรีเมียมมากขึ้น มีการเพิ่มความลึก 3 มิติและและผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกดีขึ้นของวัสดุหุ้ม รวมทั้งยังมีจอมัลติมีเดียใหม่ขนาด 10.5 นิ้วความละเอียดสูงป้องกันแสงสะท้อนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรถในเกรดกลางจะมาพร้อมกับจอแสดงข้อมูลผู้ขับ Combimeter 12.3 นิ้ว ที่เลือกรูปแบบการแสดงข้อมูลได้ 4 แบบ

Interior of Toyota Corolla EU Spec

Corollaรุ่นปรับโฉมในยุโรปซึ่งมี 2 รุ่นเครื่องยนต์คือ 1.8 และ 2.0 ลิตรมาพร้อมกับระบบ Self-charging Full Hybrid Electric System เจเนเรชันที่ 5 ของ Toyota โดยมีการออกแบบ Power Control Unit และ Transaxle Motor ใหม่ รวมทั้งใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออนที่มีกำลังมากขึ้นแต่ขนาดเล็กลง โดยลดน้ำหนักของรถลงได้ถึง 18 กิโลกรัม

จากการใช้ระบบไฮบริดใหม่ทำให้รุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร มีกำลัง 138 แรงม้า รวมทั้งลดเวลาในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ลง 1.7 วินาทีจากรุ่นก่อนเหลือ 9.2 วินาที ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรมีกำลังขับเคลื่อน 193 แรงม้า และลดเวลาทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ลงเกือบครึ่งวินาทีเหลือ 7.5 วินาที รวมทั้งยังลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงเหลือ 107 กรัม/กม.

Toyota Corolla

นอกจากการมีกำลังเพิ่มขึ้นแล้วรถรุ่นใหม่ยังให้ความรู้สึกในการเร่งที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยการปรับตั้งการควบคุมระบบไฮบริดใหม่ และยังให้เสียงที่เงียบลงจากการลดควาเร็วในการทำงานของเครื่องยนต์ลงเมื่อมีการเร่งความเร็ว ส่วนการขาย Corollaรุ่นปรับโฉมในยุโรปจะเริ่มช่วงไตรมาสแรกของปี 2023

Tagged:

admin24

admin24

RELATED ARTICLES