นับตั้งแต่เริ่มการเปิดตัวสู่ตลาดทั่วโลก VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเวียดนามได้นำเทคโนโลยีจากความเชี่ยวชาญของ Vingroup ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และเป็นธุรกิจใหญ่ที่สุดในเวียดนามมาสร้างความแตกต่างที่สำคัญ และผลักดันการเติบโตของบริษัท
การประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในตลาดโลกของ VinFast โดยมีฐานที่มั่นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และตลาดยุโรปนำสู่การตั้งเป้าหมายในตลาดเอเชียอย่างจริงจังทั้งในอินเดีย อินโดนีเซีย และล่าสุดคือประเทศไทย ทั้งนี้ Vingroup ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของเวียดนามที่ยิ่งใหญ่ นอกจากให้การสนับสนุนทางการเงินแล้ว ยังเป็นเสาหลักสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้ VinFast ก้าวสู่เวทีโลกอีกด้วย
จากประเทศผู้นำเข้ารถยนต์สู่การเป็นผู้เล่นระดับโลก: วิสัยทัศน์อันกล้าหาญของ Vingroup เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของเวียดนาม
Vingroup บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุด และมีบทบาทสำคัญอย่างหลากหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม สร้างรายได้ประชาชาติ (GDP) เกือบ 1.6% ในปี 2023 โดยมีการดำเนินงานในสามหมวดธุรกิจหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีการค้าและบริการ และธุรกิจเพื่อสังคม
ธุรกิจทั้งหมดของ Vingroup มีส่วนสนับสนุนความสำเร็จของบริษัท แต่อสังหาริมทรัพย์ และยานยนต์ไฟฟ้าเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลักในปี 2023 โดยมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 236,457 ล้านบาท (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างน่าทึ่งสร้างรายได้มากกว่า 137,330 ล้านบาท (94.3 ล้านล้านดองเวียดนาม : VND) ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปี 2022 ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำโดยรถยนต์ไฟฟ้าของ VinFast เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้มากกว่า 41,359 ล้านบาท (28.4 ล้านล้านดอง) เมื่อเทียบกับ 18,932 ล้านบาท (13 ล้านล้านดอง) ในปีก่อน
ก่อนหน้าที่จะมี VinFast อุตสาหกรรมยานยนต์จำกัดอยู่แค่การนำเข้า อุตสาหกรรมต่อเนื่องไม่ได้รับการพัฒนาและมีต้นทุนที่สูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ตลาดยานยนต์ของเวียดนามมีศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะมีอัตราการเป็นเจ้าของรถยนต์ต่ำมากเพียง 23 คันต่อประชากร 1,000 คน
จนถึงปัจจุบัน VinFast ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง สร้างความเป็นอิสระ และความตื่นตัวในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ของเวียดนาม อิทธิพลของบริษัทไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในเวียดนามเพราะเพียงเจ็ดปีหลังจากเปิดตัวรถรุ่นแรกที่งาน Paris Motor Show ประธานของ Vingroup ก็ติดอันดับผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
แผนการเติบโตทั่วโลกของ VinFast ได้รับการเน้นย้ำอีกครั้งจากการที่ Pham Nhat Vuong ประธาน Vingroup และ CEO ของ VinFast ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ MotorTrend Power List ปี 2024 เป็นนักธุรกิจเพียงคนเดียวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเกียรตินี้ ซึ่งแสดงถึงความมีวิสัยทัศน์ ผลงานการบุกเบิก การเติบโตอย่างรวดเร็ว และศักยภาพที่มั่นคงในการปฏิวัติภูมิทัศน์ยานยนต์ของ VinFast
ความมุ่งมั่นในตลาดโลกขับเคลื่อนโดยระบบนิเวศทางเทคโนโลยีของ Vingroup
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันภูมิทัศน์ยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกคือระบบนิเวศทางเทคโนโลยีของ Vingroup ครอบคลุม VinBigData, VinAI, VinES, VinCSS, VinBrain และ VinHMS ต่างมีส่วนส่งเสริมความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง VinBigData พัฒนาขึ้นจากความสำเร็จของสถาบัน Big Data ของ Vingroup ในด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ ที่เน้นการประมวลผลภาพ และภาษาช่วยให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฮเทคจำนวนมาก เช่น ViVi (ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ), กล้อง AI, และ VinDr โซลูชัน AI ที่สำหรับการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เป็นต้น
สำหรับ VinCSS มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนา และโซลูชันการรับรองการตรวจสอบความถูกต้องแบบไม่ใช้รหัสผ่านตามมาตรฐาน FIDO2 บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ IT, Internet of Things (IoT) และยานยนต์ VinHMS ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ มีความเชี่ยวชาญในการจัดหาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมทางธุรกิจขององค์กร
VinBrain ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีสุขภาพชั้นนำของเวียดนามปฏิวัติการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์จากศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ AI พัฒนาด้านภาพและการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เพื่อออกแบบโซลูชันให้เหมาะกับความต้องการของวงการแพทย์
VinES ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือไฟฟ้ากำลังขนาดกลางและสูง แอปพลิเคชั่นเพื่อยานพาหนะและโซลูชันการจัดเก็บพลังงาน โดยได้จัดตั้งหน่วนงานการวิจัยและพัฒนา การผลิตการทดสอบ และการตรวจสอบ โดยร่วมมือกับผู้นำระดับโลกเพื่อปฏิวัติวงการเทคโนโลยี
เมื่อปีที่แล้ว ประธานของ Vingroup ประกาศว่าจะมอบหุ้นของ VinES จำนวน 99.8 เปอร์เซ็นต์ให้กับ VinFast เพื่อเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และห่วงโซ่การผลิต สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ภาพด้านเทคโนโลยีครบถ้วน VinAI ผู้นำด้านโซลูชันการเคลื่อนที่อัจฉริยะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ และซัพพลายเออร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยานพาหนะได้ VinAI ได้ปรับปรุงความปลอดภัยและ สร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ขับขี่หลายล้านคนทั่วโลก เทคโนโลยี และคุณสมบัติที่บริษัทได้รวมเข้ากับรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นแล้ว รวมถึง VF e34, VF5 และ eBus รวมถึงรถยนต์ของผู้ผลิตในยุโรป
ที่งาน CES 2024 VinFast MirrorSense เทคโนโลยีการปรับกระจกอัตโนมัติที่ใช้ AI รายแรกของโลกพัฒนาขึ้นจาก
ความร่วมมือระหว่าง VinFast และ VinAI ได้รับรางวัล Innovation Award Honoree ในหมวดหมู่ Vehicle Tech and Advanced Mobility รางวัลนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยอมรับถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังยืนยันถึงตำแหน่ง และศักยภาพของ VinFast และ VinAI ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกอีกด้วย เทคโนโลยีการปรับกระจกอัตโนมัติใน VinFast MirrorSense ตรวจจับตำแหน่งศีรษะและทิศทางการมองของคนขับรถได้อย่างแม่นยำถึง 10 มม. โดยจะปรับตำแหน่งของกระจกที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
เมื่อเร็วๆ นี้ Vingroup ได้รับรางวัล ASEAN Tech for ESG Award 2023 ตอกย้ำถึงฐานะผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การผลักดันอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการริเริ่มทางดิจิทัลตามหลักการ ESG และใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น AI, IoT, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีเสมือนจริง และบล็อกเชน ที่ช่วยแก้ไขปัญหาความยั่งยืนในหลากหลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การค้าและบริการและธุรกิจเพื่อสังคม
VinFast ที่ซึ่งเทคโนโลยีมาบรรจบกับการเดินทาง
VinFast ไม่ได้สร้างแค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่พัฒนาพาหนะอัจฉริยะที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี AI ล้ำสมัย มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยสะดวกสบาย และสนุกยิ่งขึ้น ด้วยปรัชญาที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง VinFast ยกระดับความปลอดภัยของผู้ขับขี่ไปอีกขั้นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (Advanced driver assistance system : ADAS) จึงติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยในรถยนต์ทุกรุ่น ช่วยให้ลูกค้าทุกคนสามารถเข้าถึงก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้โดยไม่คำนึงถึงงบประมาณรถยนต์ที่ติดตั้ง ADAS ระดับ 2 ทำงานกึ่งอัตโนมัติช่วยให้รถบังคับเลี้ยว เร่งความเร็ว และเบรกโดยอัตโนมัติในสถานการณ์ที่ซับซ้อนภายใต้การดูแลของผู้ขับขี่ หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นคือเทคโนโลยีการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติสำหรับผู้กังวลเกี่ยวกับจุดบอดในการขับขี่ โดยใช้เครือข่ายกล้องและเซ็นเซอร์ช่วยสแกนหาช่องว่างบนถนนและเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัยแทนคุณลดความกังวลและความเครียดในการขับขี่
VinFast ติดตั้งระบบการลดการชนที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และกล้องทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์บนท้องถนนจะตรวจสอบวัตถุที่อยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังรถของคุณอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบโอกาสเสี่ยงการชน และคุณไม่ตอบสนองได้ทันเวลาระบบจะปรับลดความเร็วโดยอัตโนมัติ หรือหยุดรถโดยสมบูรณ์ซึ่งช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้เคยขับรถออกนอกเลนเนื่องจากสมาธิหลุดหรือง่วงนอนหรือไม่ VinFast’s Lane Keeping Assistance พร้อมช่วยเหลือระบบนี้ทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยนักบิน เมื่อเปิดใช้งานเซ็นเซอร์จะตรวจจับว่ารถของคุณเริ่มออกนอกเลนหรือไม่ และจะแก้ไขการบังคับเลี้ยวอย่างนุ่มนวลเพื่อให้คุณอยู่ตรงกลางระหว่างเส้นเลน
VinFast มีการใช้กล้องและ AI ตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่เพื่อหาสัญญาณของความเหนื่อยล้า การใช้โทรศัพท์ หรือ
การละมือออกจากพวงมาลัย หากระบบตรวจพบพฤติกรรมเสี่ยง ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อให้ผู้ขับกลับมาสนใจถนนอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้คนรอบข้าง
VinFast ไม่ใช่แค่บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่เปิดพรมแดนใหม่ของเทคโนโลยีรถยนต์อีกด้วย ด้วยความมุ่งมั่นในนวัตกรรม AI บริษัทจึงสร้างอนาคตที่การขับขี่ปลอดภัย ฉลาดขึ้น และสนุกยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน