ZEEKR เปิดตัว ZEEKR X โกลบอล พรีเมียม คอมแพค เอสยูวี สำหรับคนเมืองยุคใหม่

ZEEKR X เอสยูวีสำหรับคนเมืองยุคใหม่ เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

ZEEKR X เป็นรถเอสยูวีหรูหราขนาดกะทัดรัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน เป็นรถคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักผจญภัยและครอบครัวที่กำลังมองหาการเดินทางเพื่อสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ZEEKR ได้ผสมผสานการควบคุมการขับขี่ขั้นสุดยอด กับนวัตกรรมขับเคลื่อนแห่งโลกอนาคต

จากพละกำลังจากระบบมอเตอร์คู่ 315kW (428 hp) แรงบิดสูงสุด 543 N•m อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเทียไอออนขนาด 67 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC โดดเด่นด้วยระบบสลับโหมดการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Lightning Switch AWD System) ระหว่างสองล้อและสี่ล้อได้ภายในเสี้ยววินาที ปลอดภัยขั้นสุดด้วยผลการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ตามมาตรฐาน EURO NCAP

ดีไซน์พรีเมียมลักชูรีเพื่อการใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างง่ายดาย

ด้วยปรัชญาการออกแบบที่ยึดถือ ความงดงามของนวัตกรรม ความหรูหรา และความยั่งยืน ZEEKR X เปรียบเสมือน สายฟ้าที่เปลี่ยนนิยามใหม่ของการขับขี่โดยไม่กลัวที่จะทลายกรอบเดิม ด้วยแรงบันดาลใจจากความเรียบง่ายแบบสแกนดิเนเวียผสมผสานเส้นสายที่สะอาดและความหรูหราที่โปร่งโล่ง โดยเน้นที่การใช้งาน สร้างพื้นที่ที่เทคโนโลยีผสมผสานอย่างลงตัวกับสุนทรียภาพ ZEEKR X ออกแบบตัวรถให้มีขนาด ความกว้าง x ความยาว x ความสูง 4,432 mm x 1,836 mm x 1,566 mm ระยะฐานล้อ 2,750 mm ซึ่งเป็นขนาดสมมาตรทุกมิติสำหรับรถคอมแพคเอสยูวี โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด สรรสร้างให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นในทุกมุมมอง  ไม่ว่าจะเป็น ความโค้งมนดุจแสงแห่งรุ่งอรุณ กระจกมองข้างแบบไร้กรอบ ดีไซน์ที่จับประตูแบบ Hidden Capacitive Sensing Door Handles ช่องชาร์จไฟที่เรียบสนิทไปกับตัวรถ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ไฟท้ายแบบ LED พร้อมสัญลักษณ์ ZEEKR แบบสามมิติ การออกแบบภายในที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด  ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของหลังคากระจกพาโนรามาขนาด 1.21 ตารางเมตร พร้อมสัมผัสแสงธรรมชาติที่สาดส่องเข้ามาในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสี  Rose Gold ทั่วทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นสวิชต์หน้าต่าง ปุ่มเปิดประตู หรือแม้แต่ Hook สำหรับแขวนแจ็คเก็ต หน้าจอกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว มาพร้อมกับชิป 8155 จาก Qualcomm Snapdragon เพื่อรองรับการประมวลผลอย่างรวดเร็ว และเพราะความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของทุกการตัดสินใจออกแบบ ZEEKR จึงใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่สะอาดกว่า

ปลดล็อคประสบการณ์ไลฟ์สไตล์การเดินทางรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูง

ZEEKR มองเห็นอนาคตของการขับเคลื่อนที่มีความชาญฉลาด เป็นมิตร มั่นใจ และปรับเปลี่ยนได้ ด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงแห่งอนาคตที่จะนำพาผู้ใช้งานไปสู่ที่หมายตามต้องการได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายกับนวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรมทางประสบการณ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Experience Architecture – SEA) รวมถึง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ZEEKR Advanced Driving Assistance System – ZEEKR AD) ด้วยกล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร และ เรดาร์อัลตราโซนิค 12 ตัว รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic Lane Change – ALC) ระบบรักษาตำแหน่งในเลน (Lane Centering Control – LCC) ระบบแจ้งเตือนวัตถุในจุดบอด (Blind Spot Detection – BSD) ระบบแสดงภาพรอบตัวรถ (Around View Monitor – AVM) หนึ่งในจุดเด่นก็คือ โครงสร้างแบบ SEA Platform ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ที่จะช่วยทั้งในด้านการขับขี่ สมรรถนะ การทรงตัว รวมถึงการลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยม เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นกับ Lightning Switch Intelligent AWD System หรือระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่แบบ AWD อัตโนมัติเพียงแค่เสี้ยววินาที เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหล่านี้ ช่วยให้การขับขี่เกิดความคล่องตัวแต่ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดนั่นเอง

“ZEEKR X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่มันคือปรากฏการณ์ระดับโลก นี่คือ Global Premium Compact SUV เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของความกล้าที่จะแตกต่าง มันไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เป็นตัวแทนของโลกที่เชื่อมโยงกันด้วยความตื่นเต้นเร้าใจของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) กล่าว

ZEEKR X มาพร้อม 5 โทนสีที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แก่

  • สีขาว Crystal White
  • สีครีม Palace Beige
  • สีเขียว Pine Green
  • สีเทาเข้ม Grid Grey
  • และสีเทาพิเศษ MistGrey

โดย ZEEKR X มาทำตลาดในไทยทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังการขับขี่ 272 แรงม้า และระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไกลถึง 540 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน ทั้งไฟหน้าแบบ Full LED , Panoramic Glassroof ล้อขนาด 18 นิ้ว และที่โดดเด่นคือ ระบบความปลอดภัยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมีให้ครบตั้งแต่รุ่น Standard ราคา 1,199,000 บาท 

รุ่น Flagship ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นด้าน Performance จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงถึง 428 แรงม้า และระยะทางการขับขี่ที่ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง โดยรุ่น Flagship จะมีอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ล้อแบบ Forged Wheel ขนาด 20 นิ้ว  AR HUD, ไฟ Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 13 ตำแหน่ง ราคา 1,349,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษประกันภัยชั้น 1 พร้อมการรับประกัน ตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และบริการ Mobile Service พิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญ 500 ท่านแรก ที่จองและรับรถภายในสิงหาคม 2567 นี้ รับฟรี Wallbox จาก “VREMT” พร้อมแพคเกจติดตั้ง มูลค่า 50,000 บาท สามารถจองและชมรถได้จาก POP UP ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ Emsphere, Central Westgate, The Mall Bangkae และ Central Rama 2 และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของทาง ZEEKR ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

Tagged:

admin24

admin24

RELATED ARTICLES